xs
xsm
sm
md
lg

นอนคุกตามน้อง “กิมเอ็ง” พี่สาวนางไก่ ถูกจับอ้างเบื้องสูงหลอกเหยื่อบริจาคเงิน 2.9 ล้าน ไร้ญาติประกันตัว (มีคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจกองปราบปรามรวบ “กิมเอ็ง” พี่สาว “นางไก่" หลอกเหยื่อบริจาคเงิน 2.9 ล้านบาท อ้างนำไปถวายเป็นพระราชกุศล แต่ไม่ได้ถวายจริง เจ้าตัวรับสารภาพ จนท.แจ้งข้อหาผิดมาตรา 112 พร้อมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ ก่อนนำตัวขออำนาจศาลฝากขัง ไม่มีญาติมาประกันตัว ต้องเข้าเรือนจำ



วันนี้ (27 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม หรือกิมเอ็ง แซ่เตียว อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 592/17 หมู่ 1 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1563/2559 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2559 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม พร้อมของกลางเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา กำไลข้อมือเงิน โดยมีข้อความว่า Long Live The King ได้ที่ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้มีคำสั่งที่ 131/2559 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 และที่ 136/2559 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 แต่งตั้งคณะพนักงาน สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีต่อนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ค้ามนุษย์ และหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวน ระหว่างการสืบสวนสอบสวนได้มีผู้เสียหาย (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เดินทางเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในลักษณะคล้ายนางไก่ และคาดว่าน่าจะเป็นบุคคลคนเดียวกันกับ นางกิมเอ็ง แซ่เตียว อดีตผู้ต้องหาคดีหลอกลวงผู้อื่นให้บริจาคเงิน โดยอ้างว่าสามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และถูกศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิพากษาจำคุก 6 ปี ต่อมาพ้นโทษจึงเปลี่ยนชื่อและนามสกุลหลายครั้งจนปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ดร.กมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้เผยแพร่สารคดีเฉลิมพระเกียรติ โดยนางกมนทรรศน์ให้สัมภาษณ์เชิงกล่าวอ้างว่าเคยตามเสด็จฯ และอ้างว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูง อีกทั้งเป็นผู้ปรุงอาหารถวายในสำนักพระราชวัง มีการสร้างภาพทางสังคมหรือสาธารณะเพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเชื่อว่าเป็นผู้ใกล้ชิดกับคนชั้นสูง โดยแสดงตนเป็นตัวแทนประกอบพิธีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเฉลิมพระเกียรติ และจัดงานวันเกิดอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำของขวัญและแจกันดอกไม้ซึ่งอ้างว่าได้รับพระราชทานมามอบให้นางกมนทรรศน์ เพื่อให้บุคคลที่มาร่วมงานหรือผู้พบเห็นหลงเชื่อ

“เมื่อสร้างความน่าเชื่อถือแล้ว ผู้ต้องหาก็จะพูดจาหว่านล้อมแล้วชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสต่างๆ โดยมีผู้เสียหายจำนวนหลายคนหลงเชื่อมอบเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีนางกมนทรรศน์ ขณะนี้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี รวมมูลค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2,979,300 บาท และหลังจากที่ได้รับเงินแล้ว นางกมนทรรศน์ได้นำหนังสือทรงขอบคุณเป็นหนังสือปลอมที่อ้างว่าออกโดยสำนักพระราชวัง” ผบช.ก.กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สมหมายกล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม เวลา 09.40น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามจับกุมนางกมนทรรศน์ขณะหลบหนีไปที่ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ก่อนขยายผลค้นห้องพักย่านลาดพร้าว 60 พบทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก เช่น เหรียญที่ระลึกเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือของที่ทางนางกมนทรรศน์ปลอมแปลงขึ้น อีกทั้งจะทำการตรวจสอบว่าบุคคลที่มามอบดอกไม้ให้นางกมนทรรศน์เป็นบุคคลของสำนักราชวังจริงหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบ

พล.ต.ต.สมหมายกล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมาย มาตรา 112 ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลผู้ร่วมขบวนการซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวหมดแล้ว สำหรับรายละเอียดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้

สำหรับประวัติการเปลี่ยนแปลงชื่อของผู้ต้องหานั้น ชื่อเดิมคือ กิมเอ็ง แซ่เตียว แล้วเปลี่ยนเป็น ดวงฤทัย จารุดวงหทัย ในปี 2537 ต่อมาเมื่อปี 2539 เปลี่ยนเป็น ดวงหทัย จารุดวงหทัย แล้วเปลี่ยนเป็น ณัฐนันทน์ คำเฉย ในปี 2547 กระทั่งปี 2548 ได้เปลี่ยนเป็น กมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ พบว่าผู้ต้องหาเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกับนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ผู้ต้องหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา, พยายามค้ามนุษย์ และหมิ่นเบื้องสูงตามมาตรา 112 ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำในขณะนี้ โดยมีพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ ทั้งคู่มีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูงคล้ายกันแต่แยกกันก่อเหตุ เนื่องจากทั้งคู่ไม่ลงรอยกัน โดยเมื่อปี 2530 นางไก่ได้ไปเป็นพยานปากเอกในคดีเครื่องราชฯ ที่นางกมนทรรศน์ถูกฟ้องเป็นจำเลยฐานประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่ามีสิทธิ หลังจากประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทยไปงานราตรีสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาล

ต่อมา ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้นำตัวนางกิมเอ็ง มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก โดยพนักงานสอบสวนระบุในคำร้องสรุปว่า เมื่อระหว่างประมาณเดือน ส.ค. 2553 - 30 ส.ค. 2555 ผู้ต้องหาได้แอบอ้างกับผู้บริหารบริษัท ฮุยเหลียง สดรีน พริ้นติ้ง จำกัด ผู้เสียหายว่า มีความใกล้ชิดสนิทสนมและปรุงอาหารถวายบุคคลในสถาบันเบื้องสูง สามารถขอพระราชทานเครื่องราชฯ ให้ได้ จนผู้เสียหายหลงเชื่อยอมมอบเงินให้ผู้ต้องหาจำนวน 17 ครั้ง รวม 2,979,300 บาท เพื่อแลกกับเครื่องราชฯ ซึ่งล้วนเป็นความผิดกฎหมาย

ต่อมาพนักงานสอบสวนกองปราบได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากศาลอาญาที่ จ.1563/2559 เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2559 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จากบ้านพัก ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแจ้งข้อหาดำเนินคดี ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยานอีก 8 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา และอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ไม่มีญาติของนางกิมเอ็งมายื่นคำร้องและยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนางกิมเอ็งไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป













 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น