MGR Online - สองสาวใหญ่โร่แจ้งตำรวจกองปราบปรามจับเพื่อนรวมเงินซื้อลอตเตอรี่ด้วยกันแบ่ง 3 ส่วน ถูกรางวัลที่ 1 มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แต่เพื่อนไม่ยอมแบ่งอ้างไม่ถูกรางวัลแล้วติดต่อไม่ได้
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นางเรวดี หาแก้ว อายุ 51 ปี ชาว จ.พิจิตร และนางวิไลพร รัตนะติสร้อย อายุ 51 ปี ชาว กทม. เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อรรถพล อินทะนิน รอง ผกก.(สอบสวน) บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ อดีตเพื่อนสนิท หลังถูกนางสุดารัตน์ยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ รวม 30 ล้านบาท ไปเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นางเรวดีกล่าวว่า เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตนและนางสุดารัตน์ซึ่งยังคงคบหาเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ในขณะนั้นได้เดินทางทำบุญที่วัดลาดบัวขาว (ราชโยธา) แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. หลังจากที่ทำบุญเสร็จได้ชักชวนนางสุดารัตน์ให้ร่วมกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประวันที่ 1 เมษายน 2559 แบบชุดจำนวน 5 ใบ ในราคา 500 บาท โดยมีนางวิไลพรที่พักผ่อนอยู่ที่บ้านไม่ได้เดินทางมาทำบุญด้วยกันขอร่วมลงทุนซื้อด้วย โดยตนเองและนางสุดารัตน์นั้นแบ่งกันคนละ 2 ใบ ส่วนนางวิไลพรได้เพียง 1 ใบ โดยตัวเองเป็นคนเลือกตัวเลขและจ่ายเงิน แต่สลากกินแบ่งฯ ทั้งหมดนั้นนางสุดารัตน์ขอเป็นผู้เก็บไว้เอง ตนจึงขอเซ็นชื่อระบุกำกับไว้บนฉลากจำนวน 2 ใบ
นางเรวดีกล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน ตนมาทราบว่าสลากกินแบ่งดังกล่าวถูกรางวัลที่ 1 รวม 5 ใบ เป็นเงินมูลค่า 30 ล้านบาท แต่เมื่อทวงถามนางสุดารัตน์กลับถูกปฏิเสธว่าไม่ถูกรางวัล ก่อนจะขาดการติดต่อไปในที่สุด จึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.ประเวศ เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่านางสุดารัตน์ได้ว่าจ้างให้ชาวบ้านให้นำสลากไปขึ้นรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี โดยจะทยอยขึ้นทีละใบเพื่อไม่ให้เกิดความสงสัย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเอาผิดต่อนางสุดารัตน์ได้ จึงเดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามในวันนี้ให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดำเนินการต่อ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนางสุดารัตน์แล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายของวันนี้จะเดินทางไปที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อขอตรวจสอบสลากกินแบ่งฯ ที่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหานำมาขึ้นเงินว่ามีข้อพิรุธหรือไม่ต่อไป” นางเรวดีกล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รับเรื่องไว้ ก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
