MGR Online - “ศานิตย์” แถลงรวบผัวเมียใจบาปตระเวนงัดตู้บริจาคเงินวัดทั่ว กทม.-ปริมณฑล ทำมาแล้วกว่า 34 ครั้ง เน้นช่วงเวลาพระออกบิณฑบาต ก่อนขอพระประธานว่าลูกไม่มีเงินใช้ ขอเอาเงินไปใช้ จากนั้นนำเงินเที่ยวเตร่และเล่นพนันมวย ซ้ำเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 58
วันนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล, พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข และ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช ผบก.น.7 พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.วีรศักดิ์ กลั่นเกิด รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน, พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ปัดสำราญ สว.สส.สน.ตลิ่งชัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายจิรสิน ญาณภัทร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/34 หมู่ 8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จว.ปทุมธานี ผู้ต้องหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.597/2559 ลงวันที่ 18 ส.ค. 2559 และนางพิกุลแก้ว ญาณภัทร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/34 หมู่ 8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.598/2559 ลงวันที่ 18 ส.ค. 2559 พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระเป๋า 1 ใบ เงินเหรียญ 303 บาท และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด หมายเลขทะเบียน ฎข 6452 กทม. โดยจับกุมได้บริเวณบ้านเลขที่ 43/31 หมู่ 5 ซอยพรหมประธาน ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2559 เวลาประมาณ 06.00 น. เกิดเหตุชิงทรัพย์ภายในวัดอินทราวาส หรือวัดประดู่ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายได้ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด หมายเลขทะเบียน ฎข 6452 กทม.เข้ามาสำรวจภายในวัดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ส.ค. ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ส.ค.เวลาประมาณ 06.00 น. สามีภรรยาคู่นี้ก็กลับเข้ามาในวัดและงัดตู้เอาเงินสดไป 4,000 บาทก่อนจะหลบหนี จากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถยนต์ ทราบว่ารถยนต์ค้นดังกล่าวเป็นของนายจิรสิน และนางพิกุลแก้ว สามีภรรยา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 43/31 หมู่ 5 ซอยพรหมประธาน ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จ.นนทบุรี ทางพนักงานสอบสวนขอหมายจับทันที กระทั่งสามารถจับกุมสองสามีภรรยานี้ได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้าที่จะมาก่อเหตุเคยทำงานก่อสร้าง แต่บริษัทปิดกิจการลงทำให้ไม่มีเงินใช้จึงเลือกที่จะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทุกครั้งจะบังคับให้ภรรยาไปด้วย แต่ภรรยาจะไม่ทราบว่าไปที่ไหน โดยเข้าไปในวัดที่ไม่ค่อยมีคน หรือช่วงเวลาที่พระออกไปบิณฑบาต หรือประมาณ 06.00 น. และจะให้ภรรยาอุ้มลูกคอยดูต้นทางอยู่หน้าโบสถ์ ตนจะเข้าไปในโบสถ์ ทุกครั้งจะยกมือไหว้ขอพระประธานว่า “ลูกไม่มีเงินใช้ ขอเอาเงินไปใช้นะครับ” และงัดเอาเงินจากตู้บริจาค แต่ละตู้ใช้เวลางัดไม่เกิน 10 นาที เมื่อได้เงินจะนำไปใช้จ่ายส่วนตัว เที่ยวเตร่ และเล่นพนันมวย
จากการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาประมาณ 5 ปี โดยมีหมายจับของ สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม และเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต จับกุมดำเนินคดีเมื่อปี 2557 โดยเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ในตู้รับบริจาควัดเบญจมบพิตร เมื่อพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณเดือน เม.ย. 2558 ก็มาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอีกโดยเน้นวัดที่อยู่ในพื้นที่ กทม.และพื้นที่ปริมณฑล ก่อเหตุมาแล้วประมาณ 34 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้จากตู้บริจาคทั้งหมดก็จะนำไปเที่ยวเตร่ เล่นการพนัน และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีต่อไป