MGR Online - หนุ่มชีวิตรักพังคิดสั้นปาดคอตัวเอง ญาตินำตัวส่ง รพ. ออกอุบายของหล่น ก่อนใช้มีดปากคอตัวเองซ้ำแล้วโดดสะพานพระนั่งเกล้าจมหายต่อหน้า พ่อเผยทั้งน้ำตา ผู้ก่อเหตุเครียดจับได้เมียนอกใจ ซ้ำหอบลูกวัย 2 ขวบหนีตามผู้ชาย ขณะที่นักประดาน้ำหยุดค้นหาเหตุน้ำเย็นจัดและกระแสเชี่ยว
วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พ.ต.ท.บุญยวัฒน์ ศรีเลิศวรกุล สวป.สภ.รัตนาธิเบศร์ ออกตรวจพื้นที่รับแจ้งเหตุชายกระโดดสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ ฝั่งขาออกมุ่งหน้าแคราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก. พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ วิมลาพานิช รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เมษนนท์ นาขวัญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เสมา บรรดาศักดิ์ สวป. พ.ต.ต.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุบริเวณกลางสะพาน พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนราวสะพานพบเพียงผ้าขนหนูเปื้อนเลือดจำนวนมากพาดอยู่บนราว โดยมีจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ทะเบียน 1 กว 3480 กทม.จอดอยู่
สอบสวนนายบุญร่วน ขันขาว อายุ 66 ปี ที่ยังอยู่ในสภาพตกใจหน้าตาตื่น ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ลูกชื่อนายชัยวัฒน์ ขันขาว อายุ 29 ปี ได้ใช้อาวุธมีดทำครัวปาดคอตัวเองก่อนจะกระโดดลงไปในสายน้ำเจ้าพระยาที่เชี่ยวกรากต่อหน้าต่อตาตนเอง และนายสิทธิพงศ์ มิคะวาส อายุ 27 ปี ญาติผู้น้อง โดยที่คาดไม่ถึงและช่วยไม่ทัน พ่อผู้สูญเสียลูกชายให้การด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ตนพักอยู่ที่บ้านเลขที่ 91/294 หมู่บ้านกาญจน์มณี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนเกิดเหตุลูกชายซึ่งเคยทำงานเป็นเมสเซนเจอร์ มีภรรยาชื่อ น.ส.อัญชุลี เขตปทุม อายุ 25 ปี ทำงานเป็นพนักงานโฮมโปร มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ มาระยะหลังเมื่อ 5-6 เดือนที่แล้วลูกชายจับได้ว่าภรรยามีชายอื่นแต่ก็ทนกล้ำกลืนอยู่เพราะเห็นแก่ลูกสาวที่ยังเล็ก แต่แล้วจู่ๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วภรรยาได้หอบลูกสาวหนีออกจากบ้านไปทำให้ลูกชายกินไม่ได้นอนไม่หลับ เกิดความเครียด จนกระทั่งใช้มีดทำครัวปาดคอตัวเองจนเลือดไหลต้องใช้ผ้าขนหนูช่วยกันซับเลือดอุดไว้ที่ลำคอ ตนเองและนายสิทธิพงศ์จึงรีบช่วยกันพาตัวขึ้นจักรยานยนต์ โดยมีนายสิทธิพงศ์เป็นคนขี่ ส่วนลูกชายนั่งกลางตนเองนั่งหลัง ระหว่างที่รถขึ้นมาถึงกลางสะพานพระนั่งเกล้า ลูกชายได้ออกอุบายว่าของหล่นให้จอดรถก่อน จากนั้นจึงวิ่งไปที่ราวสะพานก่อนจะใช้อาวุธมีดที่ซุกซ่อนมาจากบ้านปาดคอซ้ำจนเลือดอาบเต็มตัวแล้วปีนสะพานกระโดลงแม่น้ำทันทีโดยที่ตนและนายสิทธิพงศ์เองก็คาดไม่ถึงและช่วยไม่ทัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางมาที่เกิดเหตุ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาพรำๆ และเมื่อสำรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วพบว่ามีความเย็นจัด และกระแสน้ำเชี่ยวกรากไม่สามารถงมหาร่างนายชัยวัฒน์ได้จึงได้ถอนกำลังกลับ และคาดว่าศพคงลอยขึ้นในวันสองวันนี้
