แก๊งวัยรุ่น 6 คนชักมีดปังตอจี้คอชิงทรัพย์ทายาท “ร้านอุ่นไอรัก” ขณะยืนคุยโทรศัพท์ข้างทางแล้วซิ่ง จยย.หลบหนี เจ้าทุกข์ตั้งสติได้ขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูป้ายแดงไล่ตามจนคนร้ายเสียหลักล้ม เจอเสยท้ายซ้ำอย่างจัง หนึ่งในคนร้ายเสียชีวิตส่วนที่เหลือหลบหนีไปได้
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม ร.ต.อ.ฟ้าคำรณ หรี่หร่อง รองสารวัตร (สอบสวน) สน.โคกคราม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณหน้าหมู่บ้านเวิร์คเพลส รัชดา-รามอินทรา ถนนรัชดา-รามอินทรา ฝั่งขาเข้า แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจ สน.โคกคราม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 ช่องทาง บริเวณช่องทางฝั่งขวาสุดใกล้เกาะกลางพบศพนายภาณุพงศ์ มีชนะ อายุ 19 ปี นอนหงายจมกองเลือด สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีกากี มีบาดแผลฉกรรจ์กะโหลกศีรษะเปิด ใบหน้าบวมช้ำมีเลือดไหลนองเต็มพื้นผิวถนน และมีแผลถลอกตามร่างกาย ใกล้กันพบกระเป๋าคาดอกสีน้ำเงิน จากการตรวจสอบภายในพบมีดปังตอ 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ลูกเต๋า 2 ลูก กระเป๋าเงิน บัตรกดเงินสด กัญชาอบแห้งจำนวนหนึ่ง และเงินสดประมาณ 5,000 บาท ห่างไปประมาณ 10 เมตร บริเวณบนเกาะกลางถนนพบจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กถ 5613 กรุงเทพมหานคร สภาพถูกชนจนเสียหายพังยับเยินทั้งคัน จนตัวเครื่องหลุดออกมาจากตัวถังรถ เหลือเพียงล้อหน้าเท่านั้น ใกล้กันพบหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาวลายกราฟิกเสื้อยีนส์สีดำแขนยาวตกอยู่รวมถึงซากชิ้นส่วนรถและเศษกระจกแตกกระจัดกระจายเต็มผิวถนน
นอกจากนี้ยังพบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู จีที 320 ดี สีดำ ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ร 3722 กรุงเทพมหานคร สภาพบริเวณไฟหน้า กันชน คลุมล้อหน้า ยางล้อหน้าฝั่งคนขับพังเสียหายทั้งแถบ และกระจกหน้าฝั่งโดยสารแตก โดยมีนายนรินทร์ หลิมศิริวงศ์ อายุ 24 ปี เจ้าของรถยนต์ดังกล่าวยืนรอให้การต่อตำรวจอยู่ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานก่อนรีบนำศพผู้ตายส่งชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ
สอบสวนนายนรินทร์ให้การว่า ตนเป็นลูกชายเจ้าของร้านอุ่นไอรัก ร้านอาหารไทยในประเทศฮ่องกง อาศัยอยู่ประเทศฮ่องกงตั้งแต่วัยเด็กจนเมื่อจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 5 ตั้งใจจะมาศึกษาต่อที่ประเทศไทยจึงได้เดินทางกลับมาได้ไม่นานมานี้ โดยครอบครัวจะไปมา 2 ประเทศ จนกระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกของวันนี้ตนเพิ่งไปชมภาพยนตร์ที่ห้างสรรพสินค้าคริสตัลพาร์ค ย่านถนนเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา หลังจากนั้นตั้งใจขับรถกลับบ้านพักเลขที่ 119/314 ม.6 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. ระหว่างทางได้แวะคุยโทรศัพท์กับพี่ชายฝาแฝดที่บริเวณใต้สะพานข้ามมอเตอร์เวย์ ขณะกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่นั้นพบกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 6 คนขับขี่ซ้อนท้ายจักรยานยนต์กันมา 2 คัน โดยมีผู้ตายนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุ ลงมาพร้อมกับชักอาวุธมีดปังตอมาจี้ที่ลำคอด้านหลังและข่มขู่เอาทรัพย์สินในร่างกาย ได้โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 เอส สีดำ และเงินสดจำนวน 4,700 บาท ก่อนพากันหลบหนี จากนั้นตนจึงขับรถเร่งเครื่องติดตามกลุ่มคนร้ายจนมาถึงจุดเกิดเหตุ หนึ่งในรถของคนร้ายได้เสียหลักตนจึงชนเข้าท้ายจักรยานยนต์อย่างจัง และไถลไปไกลกว่า 50 เมตร จนทำให้หนึ่งในคนร้ายเสียชีวิต ส่วนคนร้ายที่เหลือหลบหนีไปได้
เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาใครแต่อย่างใด ต้องสอบสวนคู่กรณี ตลอดจนพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งต้องประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรถคันเกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่มีเหตุปล้นทรัพย์ดังกล่าว หลังจากนี้จะต้องทำการประสานตำรวจฝ่ายสืบสวนเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป