MGR Online - ดีเอสไอแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เอาผิด “พระมหาบุญชัย” ผอ.ฝ่ายการเงินและบัญชี วัดพระธรรมกาย หลังเบี้ยวให้ปากคำเส้นทางการเงินของวัด ครั้งที่ 3 ข้อหา “ขัดหมายเรียก” ส่อประวิงเวลาไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน
สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งหนังสือเชิญ พระมหาบุญชัย จารุทัตโต ผอ.ฝ่ายการเงินและบัญชี ของวัดพระธรรมกาย ผู้รับผิดชอบด้านการเงินของวัด ที่มีอำนาจสั่งจ่ายเช็ค เข้าให้ปากคำเรื่องเส้นทางการใช้เงินของวัด เพื่อนำไปประกอบการสอบสวนคดีของพระธัมมชโย ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และร่วมรับของโจร ก่อนได้ขอเลื่อนนัดเป็นวันที่ 2 ส.ค. ในเวลา 13.00 น. ซึ่งทางดีเอสไอจะต้องสรุปสำนวนเพิ่มเติมส่งให้อัยการ ภายในวันที่ 11 ส.ค. นี้
ล่าสุด วันนี้ (2 ส.ค.) เวลา 15.00 น. พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักการเงินการธนาคารดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีฟอกเงินจากการรับเช็คของวัดพระธรรมกาย เผยว่า พนักงานสอบสวนได้เรียก พระมหาบุญชัย จารุทัตโต ผอ.ฝ่ายการเงินและบัญชีวัดพระธรรมกาย ผู้รับผิดชอบด้านการเงินของวัด ซึ่งมีอำนาจสั่งจ่ายเช็คเข้าให้ปากคำดีเอสไอ มาพบตามหมายเรียก เพื่อนำไปประกอบการสอบสวนคดีของ พระธัมมชโย ภายหลังขอแจ้งขอเลื่อนให้ปากคำโดยอ้างติดศาสนกิจ 2 ครั้ง และในวันนี้ก็ขอเลื่อนอีกครั้งเป็นวันที่ 19 ส.ค. แต่พนักงานสอบสวนยืนยันให้เข้าพบเจ้าหน้าที่สอบสวน
“อย่างไรก็ตาม วันนี้เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนตามประเด็นที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษสั่งให้สอบเพิ่มเติมและต้องส่งสำนวนให้อัยการวันที่ 11 ส.ค. เมื่อ พระมหาบุญชัย จารุทัตโต ไม่มาตามนัดเป็นครั้งที่ 3 พนักงานสอบสวนดีเอสไอ และอัยการได้ประชุมร่วมกัน โดยมีมติให้เข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีกับ พระมหาบุญชัย จารุทัตโต” พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าว
ต่อมา เวลา 16.00 น. สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.ภูวเดช วณิชโยบล พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีกับ พระมหาบุญชัย จารุทัตโต ในข้อหาขัดหมายเรียก หลังไม่เดินทางมาให้ปากคำที่ดีเอสไอ เป็นครั้งที่ 3
พ.ต.ท.ปกรณ์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ให้เวลา พระมหาบุญชัย จารุทัตโต ผู้จัดทำบัญชีของวัด เพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควร แต่ท่านไม่ได้เดินทางมา พร้อมบอกเหตุผลว่าเอกสารมีจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถเตรียมการได้ทัน จึงขอเลื่อน ซึ่งท่านได้เลื่อนนัดมาถึง 2 ครั้งแล้ว เหมือนเป็นการประวิงเวลา และไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน ทำให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ เข้าแจ้งความดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนการดำเนินคดีเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.ท.ปกรณ์ เผยอีกว่า ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ ดีเอสไอ เรียก พระสุธรรม สุธรรมโม ผู้รับมอบอำนาจจาก พระทัตตชีโว เข้าให้ปากคำ เพื่อชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงินของวัดพระธรรมกาย นอกจากนี้ เตรียมทยอยเรียกพระรูปอื่น ๆ มาให้ปากคำเพิ่มเติมอีก ช่วงวันที่ 8 - 9 ส.ค. นี้ ในลำดับต่อไป
ด้าน ร.ต.ท.ภูวเดช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายละเอียดสำนวนเอกสารเสียก่อนว่าเข้าข่ายเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ หากกระทำผิดจริงก็จะออกหมายเรียกเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหาทันที