“ศานิตย์” เผยหญิงขับเก๋งชนศาลพระพรหม เหตุเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน ไม่ใช่ก่อการร้าย

MGR Online - “ศานิตย์” เผยหญิงขับเก๋งชนศาลพระพรหมเอราวัณ เพราะเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน ยันไม่ใช่ก่อการร้าย ขณะนี้ยังดูอาการอยู่ไอซียู เบื้องต้นตำรวจเตรียมตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ พร้อมรอผลตรวจของแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะมีความเห็นทางคดี

วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. ร.ต.อ.ภาสกร กันจู รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนบริเวณศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่กู้ชีพหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน

ที่เกิดเหตุภายในศาลท้าวมหาพรหม พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน พร 915 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรั้วกั้นจนพังเสียหาย ส่วนรถเกยขึ้นมาบริเวณลานพื้นที่ศาลพระพรหม โดยมีนางคนึงนิจ เตโชฬาร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซ.7 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เป็นผู้ขับขี่ ถูกนำตัวส่ง รพ.กรุงเทพคริสเตียน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย Mr.Janto Kurniawan อายุ 73 ปี ชาวอินโดนีเซีย Mrs.Rosita Kurniawan อายุ 56 ปี ชาวอินโดนีเซีย Mrs.Ong Cney Teo อายุ 70 ปี ชาวสิงคโปร์ Miss Ng Ican Leng อายุ 35 ปี ชาวสิงคโปร์ Miss Lena Bong อายุ 81 ปี ชาวจีน

ต่อมาเมื่อเวลา 21.20 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 20 นาที ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การก่อการร้ายแน่นอน เป็นเพียงอุบัติเหตุ เพราะได้มีการประสานไปยังโรงพยาบาลที่นางคนึงนิจเข้ารับการรับการรักษา เบื้องต้นทราบว่ามีภาวะเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างช่วยเหลือในห้องไอซียู นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาวอินโดนีเซีย จำนวน 3 ราย สิงคโปร์ จำนวน 2 ราย ซึ่งได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บหนัก 1 ราย ซึ่งมีอาการขาหัก เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาขับรถโดยไม่มีสติเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินทางราชการเสียหาย หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากตรวจสอบเสร็จสิ้นจะให้ประชาชนทั่วไปเข้ามากราบสักการะพระพรหมตามปกติ ส่วนการสอบสวนนางคนึงนิจจะต้องรอให้พ้นขีดอันตรายก่อน ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานกับแพทย์ที่ให้การรักษาถึงอาการอยู่ตลอด

จากการสอบสวนพยานเห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาจากถนนพระราม 1 มุ่งหน้าแยกราชประสงค์ ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนเข้ากับศาลพระพรหมบริเวณประตูด้านหน้า โดยชนเข้ากับเสากั้นขอบถนนของ กทม. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากรถเสียหลักแหกโค้งมา และรถอาจใช้ความเร็วพอสมควร โดยผู้ขับขี่เกิดอาการลมชักกำเริบ อย่างไรก็ตามจะต้องนำตัวผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว พร้อมเชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำอย่างละเอียด รวมทั้งประสานตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ

ต่อมาเวลา 22.20 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบรถยนต์ที่พุ่งเข้าชนศาลท้าวมหาพรหมเพื่อเก็บดีเอ็นเอ และได้เก็บหลักฐานบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 30 นาที จากนั้นจะนำรถยนต์ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บรีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งหลังเกิดเหตุยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และประชาชนเข้าไปกราบสักการะท้าวมหาพรหมตามปกติ ประมาณ 30 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะกั้นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประชาชน และสื่อมวลชน ให้อยู่นอกเขตจุดเกิดเหตุเพื่อความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้