MGR Online - อัยการเตรียมร้องศาลอาญา ขอสืบพยานล่วงหน้าคดีค้ามนุษย์ล่วงหน้า 21 ปาก เป็นชาวพม่า-ไต้หวัน-กัมพูชา จากทั้งหมด 98 ปาก หลัง ตร.ห้วยขวาง บุกจับอาบอบนวด “นาตารี”
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (14 ก.ค.) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการผู้เชี่ยวชาญคดีค้ามนุษย์ 2 เจ้าของสำนวน ได้แถลงข่าวชี้แจงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ปกครองร่วมกันจับกุมนาตารี เอนเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด
รองโฆษกอัยการสูงสุดกล่าวว่า คดีนี้ พ.ต.อ.กิตติพงศ์ วิเศษสงวน พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เป็นผู้กล่าวหา ผู้ต้องหารวม 13 ราย โดยพนักงานสอบสวน และนายกันต์ รัตโนภาสจรูญ ตัวแทนของญาติหญิงขายบริการจำนวน 21 คนขอให้พนักงานอัยการเร่งรัดการยื่นคำร้องขอสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องคดี โดยมีพยานเป็นพนักงานของสถานบริการนาตารี 98 คน ซึ่งเป็นประจักษ์พยาน พยานแวดล้อม ที่จะยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหา ซึ่งคำเบิกความของพยานที่สืบล่วงหน้าสามารถจะรับฟังชั้นศาลได้ เมื่อมีการฟ้องคดี ดังนั้นคำให้การชั้นสอบสวนของพยานและเอกสารที่เกี่ยวข้องจึงมีความสำคัญต่อคดี ซึ่งภายหลังอัยการพิจารณาพยานหลักฐานที่จะสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องคดีแล้วเห็นว่ายังขาดความสมบูรณ์ไม่ครบถ้วน ทำให้อัยการไม่สามารถยื่นคำร้องสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องคดีได้ทันที จึงมีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวนจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล และทางอัยการได้ร่วมหารือกับพนักงานสอบสวน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องคดี 98 คน ในวันนี้ (14 ก.ค.) โดยจะเริ่มนำพยานชุดแรกจำนวน 21 ปาก ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกักตัวไว้เพื่อรอส่งตัวกลับภูมิลำเนาเข้าสืบพยานล่วงหน้า
“อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพยานที่จะสืบล่วงหน้าทุกคน ได้ดำเนินการทุกวิถีทางเร่งรัดในการสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และได้รับความร่วมมือจากพนักงานสอบสวนจากสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางอย่างดียิ่ง เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนทุกแขนง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ได้กำชับให้พนักงานอัยการให้เร่งรัดการสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องคดีให้ถูกต้องและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าว
นายประยุทธกล่าวต่อว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนกล่าวหานายพงษ์อนัน หรือบอล คณะเขตต์ ผู้ดูแลสถานบริการ ผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาครอบครองสื่อลามก อนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่นและกล่าวหานายพงษ์อนัน ผู้ต้องหาที่ 1 และนายสมประสงค์ สร้อยจิต ผู้ต้องหาที่ 2 รวม 7 ข้อหาฐานร่วมกันเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการหรือผู้ควบคุมค้าประเวณี ในสถานการค้าประเวณี ที่มีบุคคลอายุกว่า 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี, ให้เข้าพัก หรือช่วยให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม, ร่วมเป็นผู้รับคนต่างด้าว เข้าทำงานนอกเหนือจากประเภทและลักษณะงานที่ระบุไว้ในใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานบริการฯ ซึ่งมีผู้บริการให้แก่ลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมเป็นนายจ้างที่มีการจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเป็นลูกจ้างโดยไม่แจ้งการจ้างลูกจ้างภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน, ร่วมเป็นนายจ้าง ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานในสถานบริการ ตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ, ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรเสี่ยงต่อการกระทำผิด และกระทำการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก
และกล่าวหานายพงษ์อนัน ผู้ต้องหาที่ 1, นายสมประสงค์ ผู้ต้องหาที่ 2, นายภานรินทร์ หาญพัฒนเจริญ ผู้ต้องหาที่ 3, นายอะตาผะ แลแม ผู้ต้องหาที่ 4, นายลาภชูลาภ เงินเต็มเปี่ยม ผู้ต้องหาที่ 5 และนายประเสริฐ สุขขี ผู้ต้องหาที่ 6, นายสมหมาย พัดสิง ผู้ต้องหาที่ 7, นายธีรเดช สุขขี ผู้ต้องหาที่ 8, น.ส.สมใจ หยวกแตง ผู้ต้องหาที่ 9, นายนรินทร์ ใจบำรุง ผู้ต้องหาที่ 10 ทั้งห้าคนซึ่งหลบหนีคดี, บริษัท ชมพู จำกัด โดยนายสมหมาย พัดสิง กรรมการผู้จัดการ ผู้ต้องหาที่ 11, บริษัท พี.เอส.เอส.เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด โดยนายสมประสงค์ สร้อยจิต กรรมการผู้จัดการ ผู้ต้องหาที่ 12 และบริษัท พี.ที.ที.เอส.คอนสตรั๊คชั่น จำกัด โดยนายนรินทร์ ใจบำรุง กรรมการผู้จัดการ ผู้ต้องหาที่ 13 รวม 9 ข้อหาว่า สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ, ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำความผิดค้ามนุษย์, พาบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี หรือในรูปแบบอื่นอันเป็นการขูดรีดไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วยวิธีการฉ้อฉล หลอกลวง หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ, ร่วมกันเป็นธุระจัดหาหรือชักพาบุคคลใดเพื่อให้ค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันเป็นธุระจัดหาหรือชักพาเด็กมีอายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารหญิงอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยสำนวนคดีหลักนี้ ยังอยู่ชั้นสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี
เมื่อถามว่า พนักงานสอบสวนประสานจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการเมื่อใด รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน โดยผู้ต้องหา 5 คนที่ถูกคุมขังจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4 วันที่ 27 ก.ค.นี้ แต่เชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ก่อนครบฝากขังครั้งที่ 7 เนื่องจากต้องให้เวลาอัยการพิจารณาสำนวนเพื่อมีความเห็นสั่งคดีด้วย ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 คนที่ยังหลบหนีจะไม่เป็นอุปสรรค เพราะหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว สามารถส่งฟ้องในส่วนผู้ต้องหาที่มีตัวอยู่แล้วได้ทันที ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี จะแจ้งให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวมาฟ้องคดี ซึ่งทราบว่าได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่หลบหนีแล้ว
นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการผู้เชี่ยวชาญคดีค้ามนุษย์ 2 กล่าวถึงอายุความในการติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีและการคัดค้านประกันตัวผู้ต้องหาหรือไม่หากจะฟ้องคดีว่า ตามกฎหมายวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ. 2559 ที่แก้ไขใหม่ จะไม่นับอายุความผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนเรื่องประกันตัวนั้นโดยปกติคดีที่สำคัญและมีอัตราโทษจำคุกสูงเกิน 10 ปี อัยการก็จะคัดค้านการประกันตัวอยู่แล้ว แต่คดีค้ามนุษย์ศาลจะพิจารณาคดีโดยใช้ระบบไต่สวน ซึ่งศาลมีอำนาจใช้ดุลยพินิจในการให้ประกันตัวหรือไม่ ส่วนพยานที่จะขอสืบล่วงหน้านั้น สำหรับพยานชุดแรกที่จะขอศาลนำสืบล่วงหน้าจำนวน 21 ราย เป็นต่างด้าวซึ่งเป็นชาวพม่า ไต้หวัน และกัมพูชา ที่ขณะนี้ได้เข้าสู่การคุ้มครองพยานหลังจาก ตม.ได้ปล่อยตัวมา นอกจากนี้ยังมีคนไทย 1 ปาก และเหยื่ออีก 15 ปากที่จะรอสืบพยานล่วงหน้าต่อไป