MGR Online - ผบก.น. 6 สั่ง สน.บางรัก ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง “ร.ต.อ.” เรียกรับเงิน 7 แสนบาท เป็นค่าวิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่งสารวัตร คาด ใช้ระยะเวลาสอบพอสมควร ซึ่งการสอบวินัยต้องรอผลทางคดี ส่วนจะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ต้องรอผลสอบข้อเท็จจริงก่อน
วันนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 ฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบ กรณี รองสวป.สน.นิมิตรใหม่ แจ้งความดำเนินคดี กับ รอง สว.จร.สน.บางรัก หลังมีการจ่ายเงินให้วิ่งเต้นเพื่อขึ้นตำแหน่งสารวัตร จำนวน 7 แสน แต่เมื่อคำสั่งออกกลับไม่มีชื่อผู้เสียหาย ว่า เบื้องต้น ผกก.สน.บางรัก ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ รอง สว.จร.สน.บางรัก ที่ถูกกล่าวหาได้รายงานให้ตนทราบแล้วในเบื้องต้น ว่า มีข้าราชการตำรวจต้องคดีถูกกล่าวหา ตามระเบียบถ้าข้าราชการตำรวจในสังกัดของใครไปกระทำความผิดแล้วมีการแจ้งข้อกล่าวหา ก็จะต้องกลับมารายงานตัวต้องคดี เมื่อ สน.บางรัก ได้รับแจ้งแล้วก็ประมวลเรื่องแจ้งมาที่ บก.น.6 ในฐานะผู้บังคับบัญชา เราก็สั่งการให้ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็ได้สั่งให้ สน.บางรัก ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า จะใช้เวลาในการตรวจสอบนานแค่ไหน พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วสำนวนประกอบทางวินัยก็ต้องดูผลทางคดีอาญาด้วย ฉะนั้น จะต้องเดินคู่ขนานกัน ซึ่งทาง บก.น.6 จะตรวจสอบในเรื่องทางวินัยในฐานะที่เป็นต้นสังกัด ส่วนเรื่องทางคดีจะเป็น สน.บางซื่อ ซึ่งจะมีการกล่าวหากันอย่างไร ในรายละเอียดก็ต้องไปว่ากันที่นั่นในเนื้อสำนวนการสอบสวน ก็อาจจะใช้ระยะเวลา ด้วยเหตุผลว่าถ้าการสอบสวนยังไม่เสร็จจะมีการขอขยายระยะเวลาในการสอบสวน ซึ่งการสอบวินัยต้องรอผลทางคดี เมื่อมีการกล่าวหา มีการกระทำผิดจริงหรือไม่อย่างไร ก็คงใช้ระยะเวลาพอสมควร
เมื่อถามว่า มีการสั่งพักงาน รอง สว.จร.สน.บางรัก หรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือยัง พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ก็ต้องดูผลที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเสนอขึ้นมาก่อน อาจจะดูว่าควรจะให้ทำในหน้าที่ไหน และหากพบว่ามีความผิดจริง บทลงโทษก็ตามระเบียบที่มีอยู่แล้ว คือ ไล่ออก ปลดออก
