โปรแกรมเมอร์สาวควงสามีมะกันแจ้งจับฝ่ายอาคารคอนโดฯ หรูหัวหิน หลังถูกชายฉกรรจ์นับสิบข่มขู่ให้ย้ายออก

โปรแกรมเมอร์สาวพร้อมสามีชาวอเมริกันรับเหมาก่อสร้างโร่แจ้งตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังถูกฝ่ายดูแลอาคารเรียกชายฉกรรจ์นับสิบข่มขู่ไม่ให้กลับเข้าคอนโดฯ หรูที่หัวหิน ราคา 4.3 ล้านบาท เผยสาเหตุเกิดจากไม่ยอมจ่ายค่าส่วนกลางเพราะห้องพักมีปัญหาหนัก ซ้ำไม่เคยมาซ่อมแซมให้เลยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา

วานนี้ (10 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 16.30 น. น.ส.สมจิตร รัตนมงคล อายุ 30 ปี โปรแกรมเมอร์บริษัท แกรนดีไซน์สยาม เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ สุดโต รอง สว. (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานหลังถูกชายฉกรรจ์หลายคนข่มขู่ไม่ให้กลับเข้าที่พักในคอนโดมิเนียม “ออคิดสวิสเรส หัวหิน” อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ซื้อไว้กับแฟนหนุ่มชาวอเมริกันในราคา 4.3 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2557 เพื่อใช้เป็นวิมานรักหลังแต่งงาน และพักผ่อนตากอากาศ แต่จู่ๆ คอนโดฯ ริมทะเลหรูที่ซื้อไว้กลับมีปัญหานานัปการ ทั้งน้ำรั่ว วงจรปิดเสีย ล่าสุดกลับมีสาวใหญ่เข้ามาแอบอ้างรับมอบอำนาจจากเจ้าของใช้คอนโดฯ เปิดคลินิกรักษาเสริมความงาม บดบังความสวยงามของคอนโดฯ ที่พัก พอร้องไปยัง สคบ. ตำรวจ สภ.หัวหิน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กลับไม่มีความคืบหน้า

น.ส.สมจิตรกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตน กับมิสเตอร์ ด้วยท์ เอ็ดเวิรดิ์ เม็ทวิน แฟนหนุ่มชาวอเมริกัน ได้มาซื้อคอนโดฯ ดังกล่าวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 โดยตกลงทำหนังสือสัญญาซื้อขายห้องชุดเลขที่ 39/915 ชั้น 6 ในราคา 4.3 ล้านบาท ซึ่งในแผ่นป้ายโฆษณาของคอนโดฯ มีการระบุว่าจะมีระบบรักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชม. ทั้งเจ้าหน้าที่ รปภ. กล้องวงจรปิดทั้งในและนอกอาคาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงตัดสินใจซื้อ แต่เมื่อจ่ายเงินค่าคอนโดฯ จนครบตามสัญญา และย้ายเข้าไปอยู่ กลับพบว่าไม่เป็นไปตามที่ได้มีการโฆษณาเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่งภายในห้องก็ไม่ได้มาตรฐาน ฝ้าเพดานมีน้ำรั่วซึม วอลเปเปอร์กำแพงก็หลุดร่อน ตนจึงได้ติดต่อไปยังฝ่ายดูแลอาคาร ก็มี นางรัชดาภรณ์ นันทนากร อายุ 53 ปี อ้างตัวว่าเป็นผู้ดูแลอาคารเข้ามาพูดคุยเจรจาว่าจะให้ช่างรีบเข้าไปทำการซ่อมแซมให้ แต่ว่าทางตนจะต้องจ่ายค่าบำรุงค่าส่วนกลางรายปีมาก่อน เป็นเงินจำนวน 42,000 บาท ซึ่งแฟนก็ยอมจ่ายเงินให้ไป แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงซ่อมแซมมาตลอด กระทั่งผ่านไป 1 ปี นางรัชดาภรณ์ได้มาเรียกเก็บเงินค่าบริการอีกตนจึงไม่ยอมจ่ายก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าถ้าไม่จ่ายจะทำการตัดน้ำตัดไฟห้องที่ตนซื้อไว้ จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้นก่อนที่นางรัชดาภรณ์จะพาชายฉกรรจ์เกือบ 10 คนเข้ามาพูดจาข่มขู่ให้ตนย้ายออกไป พร้อมเปลี่ยนกุญแจประตูทางเข้าคอนโดฯ ใหม่ ทั่งที่ตนก็เป็นเจ้าของเหมือนกัน ตนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.หัวหินและร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด แต่เรื่องก็เงียบหายไป จึงตัดสินใจนำเอกสารเข้าร้องทุกข์ที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ถ.นนทบุรี 1 อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี แต่เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจึงได้เข้ามาขอลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานไว้ว่าถ้าหากตนเป็นอะไรไปต้องมาจากเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว และในวันพรุ่งนี้ตนจะเดินทางไปร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเหลือต่อไป