MGR Online - แฟนหนุ่มวัย 19 สารภาพฆ่ารัดคอสาวประเภทสอง ยัดศพใส่กระเป๋าก่อนลากไปเผาอำพรางคดีหลังวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม ย่านประเวศ อ้างอึดอัดไม่อยากอยู่ร่วมด้วย
วันที่ 5 มิ.ย. เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.ท.สมประสงค์ ปสาทรัตน์ รอง สว. (สอบสวน) สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุพบศพถูกเผาทิ้งอำพรางคดี ภายในวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม ตั้งอยู่ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 55 (ซอยวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม) แขวงและเขตประเวศ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.จตุภูมิ มุซาเคน รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ประเวศ พ.ต.ท.ศิริ ราชรักษา รอง ผกก.ป. สน.ประเวศ พ.ต.ท.พิจิตร โยธินวัชรชัย สว.ป.สน.ประเวศ ฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตร. และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถตั้งอยู่ด้านหลังสุดของสถานที่ดังกล่าว พบชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผาทิ้งเพื่ออำพรางคดีทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นายสมพงษ์ หรือเจ้หนุ่ย บุญยืน อายุ 58 ปี สภาพเหลือเพียงขี้เถ้า โดยมีแผ่นสังกะสีปิดปกคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายกิตติวัฒน์ ศรีนิธิโรจน์ อายุ 53 ปี กล่าวว่า ตนเป็นน้องชายของนายสมพงษ์ ซึ่งเป็นสาวประเภทสองที่แปลงเพศแล้ว โดยก่อนหน้านี้ พี่ชายตนมีสามีเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอยู่กินกันแบบสามี - ภรรยา มานานแล้ว ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กระทั่งสามีได้เสียชีวิตลง จึงเดินทางกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย ต่อมาพี่ชายตนได้คบหาดูใจกับ นายภัทภูมิ แย้มคง อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นลูกศิษย์พระ และมีศักดิ์เป็นหลานของพระที่จำวัดอยู่ภายในสถานที่ดังกล่าว จากนั้นเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมพี่ชายได้ขับรถมารับนายภัทภูมิ เพื่อนำตัวไปอยู่ด้วยภายในคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยโชคชัยร่วมมิตร ย่านสุทธิสาร ซึ่งอยู่กินกันมาประมาณ 3 อาทิตย์ ซึ่งระหว่างที่คบกันนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าอุปนิสัยของนายภัทภูมิ เป็นเช่นไรเนื่องจากทั้งคู่อยู่กันเพียงแค่ 2 คน
นายกิตติวัฒน์ กล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์ไปหาพี่ชายเพื่อนัดกันไปงานบวชญาติในช่วงเช้าของวันที่ 5 มิ.ย. ภายในวัดแห่งชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันนี้ ตนได้โทรศัพท์ไปหาพี่ชายอีกครั้งแต่ก็ไม่มีผู้ใดรับสาย ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาน้องสาวอีกครั้งซึ่งพักอาศัยอยู่พื้นที่ใกล้เคียงกับพี่ชายเพื่อให้ไปตาม เมื่อน้องสาวขึ้นไปบนห้องพักก็ไม่พบตัว ซึ่งพบเพียงลักษณะห้องมีร่องรอยการรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้น ไฟ และแอร์ ก็ยังเปิดอยู่ตามปกติ เมื่อตรวจสอบก็พบว่ากระเป๋าสตางค์ถูกรื้อค้น โดยไม่มีธนบัตรแม้แต่ใบเดียว บริเวณใต้เตียงก็พบแหวนเพชร มูลค่า 5 แสนบาท และนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อโรเล็กซ์ มูลค่า 3 แสนบาท ตกหล่นอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอะใจแม้แต่อย่างใด ก่อนน้องสาวตนได้ชวนตนไปงานบวชก่อน เนื่องจากเกรงว่าไม่ทัน
นายกิตติวัฒน์ กล่าวต่อว่า เมื่อเสร็จจากงานบวช ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาตามตัวพี่ชายภายในวัดดังกล่าวก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด จึงเดินสำรวจดูบริเวณโดยรอบก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงเดินตามกลิ่นไป กระทั่งไปพบกับกองขยะ ซึ่งถูกเผาจนมอดไปแล้วด้วยความเอะใจตนจึงเอาเท้าเขี่ยดู กระทั่งพบโครงกระดูกคล้ายมนุษย์ จึงเชื่อมั่นว่าเป็นพี่ชายตนอย่างแน่นอน จึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายภัทภูมิ แย้มคง อายุ 19 ปี และ นายจิรวัฒน์ บัวทอง อายุ 41 ปี ซึ่งคาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาศพนายสมพงษ์ เพื่ออำพรางคดี ภายหลังจากสอบปากคำเข้ม นายภัทภูมิ ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้แขนล็อกคอผู้ตายจนคอหักเสียชีวิต หลังมีปากเสียงกันเนื่องจากตนต้องการกลับวัด ทนความอึดอัดที่ต้องอยู่ร่วมกับนายสมพงษ์ไม่ได้ หลังก่อเหตุนำศพใส่กระเป๋าขนนำมาเผายังจุดที่พบศพเพื่ออำพรางคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในพี่พักของนายสมพงษ์ พบว่า ช่วงเวลาประมาณ 00.00 - 01.00 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. นายภัทภูมิ ได้ลากกระเป๋าเดินทางสีฟ้า ออกมาจากสถานที่ดังกล่าว โดยไม่พบตัวนายสมพงษ์ แต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 5 มิ.ย. กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบห้องพักเลขที่ 63/164 ชั้น 6 สุขประเสริฐอพาร์ทเม้นท์ ซ.วิภาวดี 16 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ซึ่งเป็นห้องที่ นายสมพงษ์ บุญยืน อายุ 58 ปี ผู้เสียชีวิต ถูกคนร้ายฆ่าแล้วนำศพทิ้งไปหลังวัดแก้ว ถ.เฉลิมพระเกียรติ พักอาศัยอยู่ โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นห้องพักหรู มีห้องนอนแยกกับห้องนั่งเล่น ตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยรื้อค้น เจ้าหน้าหน้าได้ตรวจสอบร่องรอยลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอภายในห้อง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
สอบสวน นางวรรณา บุญยืน อายุ 45 ปี น้องสาวนายสมพงษ์ ให้การว่า ห้องดังกล่าวเป็นของตนเอง ก่อนหน้านี้ นายสมพงษ์ ได้พาเพื่อนซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครมาพักอยู่ที่ห้องได้ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ก่อนเกิดเหตุญาติ ๆ ได้นัดนายสมพงษ์ไปไหว้พระต่างจังหวัดด้วยกัน นัดเจอกันเวลา 05.00 น. วันนี้ แต่ถึงเวลาก็ไม่ไปตามนัด ไม่ใครติดต่อได้ จนกลับมาจากไหว้พระจึงเดินทางมาดู โดยเคาะประตูห้องแต่ไม่มีใครเปิด จึงไขกุญแจเข้าไปตรวจสอบ พบว่า ในห้องเปิดแอร์ และไฟตรงห้องนั่งเล่นไว้ ส่วนที่นอนมีรอยยับเหมือนมีคนนอนปกติ ไม่มีรอยรื้อค้น แต่อย่างใด จึงกลับไปบ้านพักแล้วมาทราบข่าวภายหลังว่าเสียชีวิต