MGR Online - ตำรวจ ปคบ.ร่วม อย.บุกจับร้านขายยาลดความอ้วนผ่านอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชลบุรี หลังนักเรียนสาว ม.5 นนทบุรี กินแล้วเกิดอาการช็อกจนเสียชีวิต ยึดยาของกลางกว่า 5 ล้าน 2 แสนเม็ด มูลค่า 11 ล้าน 5 แสนบาท
วันนี้ (3 มิ.ย.) เวลา 14.30 น. กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี แจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ ผกก.4 บก.ปคบ. เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะโฆษก อย. เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาระบบคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบขายยาลดความอ้วนทางสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการจำหน่ายทั่วประเทศในพื้นที่ จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (แคปซูลสีน้ำเงินใส, ขาวใส) ผลิตภัณฑ์แคปซูลบรรจุขวดพลาสติกสีต่างๆ รวมกว่า 5,200,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 11.5 ล้านบาท
พล.ต.ต.ประเสริฐกล่าวว่า จากกรณีที่เด็ก ม.5 เสียชีวิต และได้รับประทานยาลดความอ้วนมาประมาณ 2 เดือนนั้น โดยได้สั่งซื้อยาลดน้ำหนักจากเฟซบุ๊ก Beauty Chic By noon ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย.ตรวจสอบ จึงได้ล่อซื้อยาลดน้ำหนัก ก่อนส่งให้ อย.ตรวจสอบสารที่อยู่ในยาลดความอ้วน ต่อมาวันที่ 2 มิ.ย.ได้ขอหมายค้นจากศาลแขวงชลบุรี เข้าตรวจค้น 2 จุด และขยายผลจับกุมอีก 1 จุด รวม 3 จุด คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เนเจอร์ คอส แลบบราทอรี เลขที่ 99/116 ม.6 ต.บ้านปึก อ.เมือง จ.ชลบุรี, บ้านเลขที่ 19/1 ม.7 ต.บ้านเชิด อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และขยายผลเข้าค้นต่อที่บ้านเช่าเลขที่ 47 ห้อง 4 ม.2 ต.หนองขยาด อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พบของกลางดังกล่าวมูลค่ากว่า 11.5 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 รายส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
“ทั้งนี้ เฟซบุ๊กดังกล่าวเปิดมาประมาณ 1 ปี เจ้าหน้าที่มีมาตรการกวดขันจับกุมผู้จำหน่ายยาลดความอ้วนตามเว็บไซต์ต่างๆ จะมีการล่อซื้อ ก่อนส่งเข้าตรวจสอบ หากพบว่ากระทำผิดตามกฎหมาย ก็จะเข้าตรวจค้นจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป หากพบเห็นการขายยาลดน้ำหนักผ่านสื่อต่างๆ โปรดแจ้ง บก.ปคบ. ทางสายด่วน 1135 หรือทางเว็บไซต์ www.consumer.police.go.th“ พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าว
เภสัชกรประพนธ์กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ได้นำยาลดความอ้วนไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีส่วนผสมของสารไซบูทรามีน ซึ่งเป็นยาที่ประเทศไทยไม่มีใช้ตั้งแต่ปี 2553 เป็นยาอันตรายที่ อย.ได้ยกเลิกไปแล้ว ขอเตือนไปยังผู้ที่ต้องการลดความอ้วนอย่าหลงเชื่อโฆษณาขายยาลดความอ้วนผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะทางเว็บไซต์ และทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือไปหามารับประทานเองเด็ดขาด
เภสัชกรประพนธ์กล่าวอีกว่า การใช้ยาลดความอ้วนอย่างไม่ถูกต้องจะไม่สามารถทำให้หายจากโรคอ้วนได้ เพราะหากใช้ติดต่อกันระยะหนึ่งน้ำหนักจะกลับขึ้นได้อีก (yo-yo effect) และเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยาโดยจะมีอาการนอนไม่หลับ เวียนศีรษะ วิตกกังวล ปวดศีรษะ ใจสั่น ตาพร่า ท้องผูก ฯลฯ ที่สำคัญอันตรายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ หากมีความจำเป็นต้องใช้ยาต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น
“ขอเตือนผู้ขายยาผ่านทางสังคมออนไลน์หรือร้านขายยาต่างๆ อย่าได้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการขายยาที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค หากต้องการลดน้ำหนักควรหันมาออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะๆ บริโภคอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมันจากสัตว์ให้ลดน้อยลง ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค หากพบเบาะแสการโฆษณา การผลิตและจำหน่าย แจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด” เภสัชกรประพนธ์กล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขายวัถตุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับ 20,000-100,000 บาท ผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยแบ่งบรรจุมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท ผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารปลอมเพื่อลวง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท และผลิตเพื่อจำหน่ายที่มีฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท