MGR Online - อาคารโรงเรียนวัดสลักเหนือ ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำกัดเซาะเสาเกิดทรุดตัวลงมา ผอ.สั่งปิดการสอน 3 วัน คาดใช้เวลาซ่อมราว 3 สัปดาห์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ค. 59 นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.นนทบุรี นางณัสรี จันทร์สมวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี นายสมยศ ศิลปีโยดม นายอำเภอปากเกร็ด นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด พร้อมคณะ เจ้าหน้าที่กองช่าง เข้าตรวจสอบอาคารเรียนของโรงเรียนวัดสลักเหนือ หมู่ที่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังเสาของอาคารเรียน และเขื่อนยาว กว่า 40 เมตร เกิดทรุดตัวลงมาหลายจนเป็นที่น่าหวาดเสียวและเกรงจะเป็นอันตรายกับเด็กนักเรียนชาย-หญิง กว่า 500 คน ในโรงเรียนแห่งนี้
โดยพบว่าเสาของอาคารเรียนทั้ง 3 อาคารซึ่งเป็นอาคารที่สร้างโดยงบประมาณของสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษา เทศบาลนครปากเกร็ด องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี โดยในส่วนของอาคารทั้ง 3 อาคารมีความสูง 4 ชั้น และ 3 ชั้น จุดที่เกิดการทรุดตัวลงมาเป็นอาคารของสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาที่มีความสูง 3 ชั้น โดยพบว่าเสาค้ำอาคารจำนวน 4 ต้น ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนจะพังเป็นที่น่าหวาดเสียว ส่วนอาคารของเทศบาลนครปากเกร็ด กับ อบจ.นนทบรี ซึ่งมีความสูง 4 ชั้นนั้นได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะเช่นกัน แต่ตัวเสายังคงแข็งแรง มีเพียงรอบ ๆ ตัวอาคารที่โดนน้ำกัดเซาะจนเห็นดินทรายโผล่รอบอาคารเรียน
นางพัณณิตา วรรณเสวก ผอ.โรงเรียนวัดสลักเหนือ กล่าวว่า เสาอาคารเรียนที่สร้างโดยสำนักงานพื้นที่การศึกษาได้เกิดเอียงสไลด์ลงมาเมื่อวานตอน 17.00 น. ทำให้อาจารย์ที่อยู่ที่ห้องต่างพากันตกใจวิ่งหนีออกมาดู และพบว่า เสาอาคารทรุดจนน่ากลัว โชคดีที่เด็กนักเรียนเลิกเรียนและกลับบ้านกันไปจนหมดแล้ว โดยในวันนี้ทางโรงเรียนได้ชี้แจงกับผู้ปกครอง ว่าทางโรงเรียนต้องปิดเรียนเป็นเวลา 3 วัน และจะเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์นี้ แต่นักเรียนของโรงเรียนซึ่งเป็นชาย 276 คน หญิง 232 คน ซึ่งเรียนอยู่ตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 คงต้องย้ายไปเรียนที่วัดสลักเหนือก่อนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายหากเข้ามาใช้อาคารเรียน เรียนหนังสือในช่วงนี้
ทางด้านนายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด กล่าวว่า อาคารเรียนทั้ง 3 อาคารปัจจุบันได้มอบให้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.นนทบุรีแล้ว ในส่วนของทางเทศบาลในวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการขนย้ายอุปกรณ์การเรียนการสอนไปไว้ที่วัด รวมทั้งทำงานประสานกับ ผอ.กองช่างของ อบจ.นนทบุรี เพื่อทำงานบูรณาการช่วยเหลือในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วน
เวลาต่อมา นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.นนทบุรี ได้หารือร่วมกับ นายสมยศ ศิลปีโยดม นอภ.ปากเกร็ด นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด นายโสภณ ทรงรูป ผอ.กองช่าง อบจ.นนทบุรี นายชูเลิศ จัดเจือจุน ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขจากการทรุดของตัวอาคาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้สรุปสั่งการให้เร่งแก้ไขเร่งด่วนดังนี้ คือ 1. ให้กรมโยธาธิการร่วมกับวิศวกรเทศบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดทำ “ไมค์โคพาย” เพื่อค้ำยันเสาทีื่รุดตัว 2. เอาดินหินมาทิ้งตรงจุดสไลด์เพื่อให้เกิดความสมดุล 3. เร่งซ่อมและตอกเสาเพิ่มอีก 3-4 ชั้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
นายชูเลิศกล่าวว่า การซ่อมแซมครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จ 2-3 อาทิตย์ ใช้งบประมาณราวหนึ่งล้านบาท เฉพาะในส่วนของอาคารที่สร้างโดยสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษา ส่วนนายโสภณ ผอ.กองช่าง อบจ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ในส่วนของอาคารอีกสองหลังนั้นทาง อบจ.นนทบุรี ได้เตรียมงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้างหาผู้มารับงาน แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ก็จะรีบรายงาน นายก อบจ.นนทบุรี ให้รับทราบ เพื่อสั่งการให้มีการเร่งรัดหาผู้มาประมูลรับงานเพื่อซ่อมแซมในส่วนของอาคารที่เหลือไม่ให้เสียหายมากไปกว่านี้