MGR Online – “เจ๊เขียว” นายทุนรายใหญ่ จ.ยโสธร และ ผู้ต้องหาคดีลักลอบค้าไม้พะยูง เข้ามอบตัวดีเอสไอวานนี้ พร้อมนำตัวดำเนินคดีต่อไป พบเป็นเครือข่ายรายใหญ่ส่งขายจีน เงินหมุนเวียนร่วม 100 ล้านบาท ขณะที่ ตัวแทนโครงการรักษ์พะยูงไทย เข้าขอบคุณที่สามารถจับได้สำเร็จ ชี้ มีกลุ่มอิทธิพลเข้าเอี่ยว แถมข่มขู่-วิ่งเต้นคดี หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ (12 พ.ค.) เวลา 14.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ ในฐานะรองโฆษก ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2557 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารเรือลำน้ำโขง เข้าตรวจค้นจับกุม นายธีระศักดิ์ ฉิมงาม พร้อมรถบรรทุก อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 82-3014 สุรินทร์ ซึ่งบรรทุกไม้พะยูง 1,156 ท่อน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ขณะกำลังลำเลียงลงเรือ บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านหาดแฮ่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อส่งข้ามไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
“ต่อมาดีเอสไอได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงกลุ่มขบวนการที่อยู่เบื้องหลังในคดีนี้ พบว่า นางผกามาศ หรือ เจ๊เขียว แดงอาจ นายทุนรายใหญ่ของ จ.ยโสธร มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้พะยูงในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า กลุ่มขบวนการค้าไม้พะยูงดังกล่าว เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันทั้งประเทศไทย ลาว และ จีน มีเงินหมุนเวียนในขบวนการดังกล่าวหลาย 100 ล้านบาท และยังพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารสัญญาซื้อขาย และนำเอกสารส่วนบุคคลของผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายไม้พะยูง รวมถึงนำเอกสารทางราชการ มาแอบอ้างต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อแสดงการครอบครองไม้พะยูง แหล่งที่มาของไม้ ประกอบกับขอรับไม้ของกลางที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายคืนในคดีนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว 11 ราย” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา นางผกามาศ อายุ 60 ปี ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมีไม้แปรรูป (ไม้พะยูง) เป็นจำนวนเกิน 0.20 ลบ.ม. ไว้ในครอบครอง ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2485, ร่วมนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่ยังไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง ออกไปนอกพระราชอาณาจักร หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ในการนำของเช่นว่าส่งออกไปก็ดี ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.265, 268” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการออกกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ผ่าน ครม. แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็คือให้ความผิดเกี่ยวกับกฎหมายที่ดิน ป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ และคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ซึ่งกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ ที่มีลักษณะซับซ้อนตามกฎหมายดีเอสไอมาเป็นคดีพิเศษด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่หมายความว่าคดีตามกฎหมายทั้ง 5 ฉบับทุกเรื่องจะมาเป็นคดีพิเศษ ซึ่งคดีที่จะมาเป็นคดีพิเศษได้ก็เฉพาะแต่คดีที่ลักษณะตามกำหนดในกฎหมายดีเอสไอ เช่น มีผลกระทบรุนแรงต่อความมั่นคงของประเทศ หรือมีผู้ทรงอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ก็เป็นลักษณะเครือข่ายข้ามชาติ เป็นต้น ซึ่งคดีเหล่านี้จึงเป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ เมื่อกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้แล้ว ก็จะต้องมีการกำหนดรายละเอียดว่าฐานใดบ้างที่เราจะรับมาดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.สุภัตรา เปรยเกิด ตัวแทนโครงการรักษ์พะยูงไทยพยุงธรรมฯ ได้เข้าพบ พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ พร้อมกล่าว ขอบคุณที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้สำเร็จ รวมทั้ง ได้เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการลักลอบค้าไม้ พะยูงในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนสูงมาก มีทั้งประชาชน ข้าราชการ และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ มีการข่มขู่พนักงานสอบสวนให้วิ่งเต้น จึงเกรงว่าคดีต่าง ๆ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
