xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แถลงผลการจับกุมชาวโคลอมเบีย หน.แก๊งลักทรัพย์บ้าน “ประพันธ์ คูณมี”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตำรวจท่องเที่ยวแถลงผลจับกุมหัวหน้าแก๊งลักทรัพย์ชาวโคลอมเบียคาบ้านพักย่านรามคำแหง พบเคยก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง หนึ่งในนั้นเคยยกเค้าบ้านนายประพันธ์ คูณมี เมื่อปี 2558



วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 00.00 น. ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตนากานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.น.2 พ.ต.ท.บวรภพ สุนทรเลขา สว.สส.ทท.2 กก.1 บก.ทท. และ พ.ต.ต.ศิลา ตันตระกูล สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. แถลงผลการจับกุมหัวหน้าแก๊งชาวโคลอมเบีย ตระเวนโจรกรรมทรัพย์สิน คือ นายหลุยส์ เฟอร์นาโด ปาร์รา ซานเชส (LUIS FERNANDO PARRA SANCHEZ) สัญชาติโคลอมเบีย ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านอาหารตามสั่ง ไม่ทราบชื่อภายในซอยรามคำแหง 65 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2554 ถึงปัจจุบันแก๊งผู้ต้องหาได้ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ ต่อมาในปี 2558 แก๊งของผู้ต้องหาได้เข้ามากระทำความผิดในพื้นที่ สน.บางเขน เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาจำนวน 3 รายในข้อหาลักทรัพย์ และได้ดำเนินการตามกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายหลุยส์ เฟอร์นาโด ปาร์รา ซานเชส หัวหน้าแก๊งของกลุ่มคนดังกล่าวมีพฤกติกรรมให้ความช่วยเหลือโดยการเช่าบ้านพักและรถยนต์ในการก่อเหตุ แต่เนื่องจากทุกครั้งที่มีการก่อเหตุ นายหลุยส์ เฟอร์นาโด ปาร์รา ซานเชส ไม่ได้อยู่ด้วยในที่เกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานไม่เพียงพอในการขออนุมัติหมายจับของศาลอาญา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหลักฐานว่าผู้ต้องหามีพฤกติกรรมในการช่วยเหลือแก๊งดังกล่าว จึงสามารถยื่นเรื่องการเพิกถอนวีซ่า จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหากบดานภายในบ้านพักย่านรามคำแหงจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม

จากการสืบสวนทราบว่าแก๊งดังกล่าวเคยก่อเหตุมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง ในพื้นที่ สน.บางเขน ซึ่งในพื้นที่สน.คันนายาว ผู้เสียหายคือ นายประพันธ์ คูณมี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านถูกยกเค้าไปเมื่อปี2558

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกบันทึกชื่อลงแบล็กลิสต์ห้ามเข้ามาในประเทศไทย 5 ปี และจะควบคุมตัวส่ง พนง.สตม.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น