MGR Online - เขื่อนคอนกรีตกันน้ำเซาะริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทรุดตัวยาว 200 เมตร ช่วงบริเวณท่าน้ำปากเกร็ดเกือบถึงวัดสนามเหนือ ส่งผลให้บ้านเรือนใกล้ที่เกิดเหตุพังถล่มเสียหาย 5 หลัง
วานนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. นายสมยศ ศิลปีโยดม นายอำเภอปากเกร็ด พร้อมด้วยปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าเขื่อนคอนกรีตกันน้ำเซาะริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัวที่บริเวณท่าน้ำปากเกร็ด-วัดสนามเหนือ หมู่ 2 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอปากเกร็ด เจ้าหน้าที่เทศบาล ทหารและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ร่วมเดินทางไปที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตกันน้ำเซาะริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทางเดินเท้า บริเวณสะพานพระราม 4 ถึงวัดสนามเหนือ ระยะทาง 450 เมตร ขนาดกว้างประมาณ 4 เมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 720 วัน วงเงินก่อสร้าง 146 ล้านบาท ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้าอาร์เค-ยูอาร์ ควบคุมงานโดยบริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด เป็นโครงการรับผิดชอบของเทศบาลนครปากเกร็ด
โดยเขื่อนคอนกรีตบริเวณดังกล่าวเกิดการทรุดตัวจมลงไปในแม่น้ำระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร จากช่วงท่าเรือปากเกร็ดถึงช่วงก่อนแนวเขื่อนหน้าวัดสนามเหนือ ทำให้น้ำทะลักเข้าเซาะริมตลิ่ง พร้อมทั้งโป๊ะท่าเรือ 2 ท่า และบ้านอีก 5 หลังที่อยู่ในแนวเขื่อนริมแม่น้ำถูกดึงพัง ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นออกมายืนดูเป็นจำนวนมาก ในระหว่างเข้าตรวจสอบยังพบว่ามีชิ้นส่วนโฟม เศษไม้ลอยออกมาจากใต้น้ำซึ่งชาวบ้านบอกว่าเป็นโฟมที่ผู้ก่อสร้างนำไปรองไว้ที่ฐานรากของเสาเข็ม ซึ่งต้องให้วิศวกรเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถาม พ.ต.ต.บัญญัติ นันทวิริยา อายุ 89 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายทราบว่า ในขณะเกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงบ้านลั่นเลยออกมายืนดูเห็นน้ำมันไหลทะลุเข้ามาจากนั้นแนวเขื่อนค่อยๆ ยุบตัวลงไปในน้ำแล้วหายลงไปคล้ายๆ แผ่นดินแยก บ้านหลังนี้ได้รับผลกระทบพังลงไปทั้งหลังยุบตัวลงไปในน้ำ และตอนนี้เข้าไปในบ้านไม่ได้
ขณะที่นายมานิตย์ ศรีหาโคตร อายุ 25 ปี คนงานตอกเสาเข็มที่พักอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทราบว่า ตอนเกิดเหตุตนเองนอนอยู่ตรงเต็นท์ริมเขื่อน อีกทั้งได้ยินเสียงปูนลั่นตั้งแต่เมื่อวาน แต่วันนี้ลั่นหลายครั้งติดๆ กันจึงได้เก็บของรีบย้ายออกมา แต่ก็มีบางส่วนจมลงไปในน้ำ ช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดไม่มีคนงานจึงไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เทศบาลหลังเข้าตรวจสอบได้ติดต่อบริษัทผู้รับเหมาให้เข้าตรวจสอบและทำการแก้ไขเป็นการด่วน สำหรับบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายนั้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เข้าตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อต สำหรับการทรุดตัวของเขื่อนยังไม่ทราบสาเหตุ ส่วนค่าเสียหายอยู่ในระหว่างการตรวจสอบต่อไป