MGR Online - สตช. สั่งคุมเข้มสนามบิน สถานที่สำคัญ ป้องกันก่อการร้าย หลังเหตุบึ้มสนามบินเบลเยียม เผย มีบัญชีรายชื่อประเทศที่ตกเป็นเป้าหมาย
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุ ระเบิด 2 จุด ภายในบริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกของท่าอากาศยานานาชาติซาวาเทม ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการประสานกับศูนย์ความมั่นคง ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าศูนย์ ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกภาคส่วน เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะสถานที่สำคัญ ทั้งสถานเอกอัครราชทูตเบลเยียมประจำประเทศไทย สนามบิน ศูนย์การค้า และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยในส่วนของตำรวจได้สั่งการให้สายตรวจแต่ละพื้นที่ออกตรวจตราสถานที่สำคัญที่มีชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมตั้งด่านตรวจค้นและคัดกรองบุคคลต้องสงสัย รวมถึงให้ตำรวจสันติบาลหาข่าวเชิงลึก
“หน่วยความมั่นคงของไทยมีบัญชีรายชื่อประเทศที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการก่อการร้าย จึงสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบการเดินทางเข้า - ออก ประเทศของบุคคล และนักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ อย่างเข้มงวดมากขึ้น” โฆษก ตร. ระบุ
ด้าน พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้มีวิทยุสั่งการด่วนที่สุด เลขที่ 0029 (ศปก.สตม)/377 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2559 ระบุว่า ด้วยเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินนานาชาติ และครั้งที่ 3 ที่สถานีรถไฟใต้ดินซึ่งอยู่ใกล้กับอาคารของสหภาพยุโรป ในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม ทำให้ผู้มีบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้า - ออก ราชอาณาจักร ด้วยความละเอียดรอบคอบ รวมทั้งตรวจสอบหนังสือเดินทาง การบันทึกข้อความ การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมและสิ่งผิดปกติในกลุ่มประเทศเป้าหมาย โดยเน้นช่องทางตามด่านท่าอากาศยาน ด่านชายแดน และสถานที่ทำการ การขออยู่ต่อในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว ในทุกกรณี ให้พิจารณาเอกสารหลักฐานเหตุผลความจำเป็นตลอดจนพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องด้วยความรอบคอบ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ กรณีเหตุการณ์สำคัญ หรือเหตุอันควรสงสัยให้รีบรายงานต่อผู้บังคับบัญชาโดยด่วนทาง ว.13 ในโอกาสแรก และรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง ศปก.สตม. โดยเร็วต่อไป