วิศวกร “เมก้า” ยันมีอบรมความปลอดภัย เผยดูแต่ระบบใหม่ไม่ยุ่งระบบไพโรเจน

MGR Online - วิศวกร “เมก้า” พบพนักงานสอบสวน ยันมีการอบรมพร้อมทำตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยทุกขั้นตอน รับงานติดตั้งระบบตั้งแต่ ก.ย. 58 ดูแต่ระบบใหม่เท่านั้นไม่ยุ่งระบบไพโรเจน

จากกรณีระบบป้องกันอัคคีภัยในห้องมั่นคงนิติกรรมหลักประกัน และบริหารหลักประกัน ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตจตุจักร เกิดทำงานอัตโนมัติทำให้สารเคมีสลายก๊าซออกซิเจนที่เรียกว่าไพโรเจนถูกปล่อยออกมาในห้องดังกล่าว ส่งผลให้คนงานที่เข้ามาปรับปรุงระบบการป้องกันอัคคีภัยของอาคารเพิ่มเติมขาดอากาศหายใจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวน 8 ราย

วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ สน.พหลโยธิน นายจิระวัฒน์ เปรมปรีดิ์ อายุ 29 ปี วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด พร้อมด้วยนายสุริเยศ ทรงมีชัย อายุ 42 ปี ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลกรณีดังกล่าว

นายสุริเยศกล่าวว่า ทางบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด ได้ไปชี้แจงและให้การกับสำนักงานสวัสดิการเพื่อคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 2 โดยในวันเกิดเหตุได้มีช่างที่เข้าไปใหม่จำนวน 9 คน ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ชี้แจงไปแล้วว่าได้มีการฝึกอบรมให้แก่พนักงานที่จะต้องเข้าไปทำงานทุกครั้ง ในวันที่เกิดเหตุจะมีช่าง 9 คนที่เป็นช่างชุดใหม่จริงเข้าไปทำงาน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีแหล่งข่าวออกมาบอกว่าทางบริษัทไม่มีการฝึกอบรมให้แก่คนที่เข้าไปทำงาน ทั้งนี้ นายจิระวัฒน์มีหน้าที่เป็นคนควบคุมงานทั้งหมดของบริษัท เมก้าฯ และฝึกอบรมให้แก่ช่างทั้งหมดที่เข้ามาทำงานในโครงการนี้ นายจิระวัฒน์ไม่สบายใจจึงมารอมอบตัวในวันนี้ เพราะมีกระแสข่าวมาว่าจะโดนออกหมายจับด้วย พนักงานของบริษัท เมก้า หากมีหมายจับจะเข้ามอบตัวหมดทุกคนไม่มีการหลบหนี

นายสุริเยศกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันได้พยายามหาข้อเท็จจริงว่าทำไมผู้ปฏิบัติงานในวันนั้นเขารู้หรือไม่รู้ แต่หากถามว่ามีการฝึกหรือไม่ เรื่องนี้ทางบริษัทฯ มีการฝึกและเทรนให้พนักงานก่อนการทำงานทุกครั้ง ในวันเกิดเหตุช่างก็ทำงานในจุดต่างๆ ตามปกติ นอกจากนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่าระบบนี้สามารถตรวจสอบหาได้ว่าจุดที่มีการเตือนสัญญาณเกิดจากจุดไหนและก็จะทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งหลังเกิดเหตุทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ จากการสอบถามข้อมูลจากผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่าขณะเกิดเหตุประตูถูกปิดอยู่

นายจิระวัฒน์กล่าวว่า ก่อนที่พนักงานทุกคนจะเข้าทำงานในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องผ่านการฝึกอบรมทุกครั้ง และเมื่อเข้าไปในพื้นที่แล้วตนจะเป็นคนบอกแนะนำตั้งแต่ลักษณะสถานที่ ประตูทางหนีไฟ อุปกรณ์หรือจุดที่ต้องห้าม โดยจะต้องให้ช่างทราบถึงขอบเขตของการทำงานในแต่ละครั้ง ตามแผนหากมีเสียงกระดิ่งดังผู้ปฏิบัติงานจะต้องรู้ว่าควรจะอพยพออก โดยได้มีการทำงานโครงการนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2558 ซึ่งมีความคืบหน้าของงานไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทุกครั้งก่อนการเข้าพื้นที่จะต้องประสานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบในการเข้าออกพื้นที่ ซึ่งในวันเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ได้มอบหมายให้หัวหน้าที่ควบคุมงานเข้าไปดูแล ปกติแล้วก่อนเข้าทำงานทุกครั้งจะมีการประสานให้ปิดระบบไพโรเจน โดยที่ช่างจะไม่ยุ่งกับระบบเก่าเพราะมีหน้าที่ในการติดตั้งระบบใหม่ แต่จะเพิ่มการป้องกันความปลอดภัยของผู้ทำงาน โดยในการทำงานจะต้องมีการเจาะบ้าง ทุกครั้งที่เจาะจะนำเครื่องที่ใช้สำหรับดูดฝุ่นไปประกบกับจุดที่ต้องเจาะเพื่อติดตั้งท่อเมนทุกครั้ง ส่วนการเข้างานจะมีฝ่ายอาคารพาเข้าไปทางประตูที่เปิดทางด้านหลังซึ่งมี รปภ.คอยเฝ้าอยู่ และอยู่ไกลจากจุดที่ทำงานมาก มีลักษณะแคบ ส่วนประตูหลักจะถูกปิดล็อกตาย