MGR Online - รรท.ผบช.น. ถกคืบคดีระบบเพลิงไพโรเจนเอสซีบีปาร์ค เผยสอบพยานแล้ว 26 ปาก เตรียมออกหมายจับเพิ่มบุคคลและนิติบุคคล ขอเวลาเช็กสัญญาร่วม ส่วน “เมก้า” ออกแถลงนั้นเป็นสิทธิ ยังไม่มีหลักฐานเอาผิดประมาทร่วมธนาคารกับไทยพาณิชย์
วันนี้ (16 มี.ค.) เวลา 14.20 น. ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยก่อนการประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีระบบป้องกันอัคคีภัยด้วยสารไพโรเจนเกิดการทำงานขึ้นที่บริเวณชั้นใต้ดินของอาคาร เอสซีบีปาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 26 ปาก และวันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยพบว่า มีหลายจุดที่ยังสงสัย
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมแล้ว เบื้องต้นพบว่ามีความสอดคล้องกับคำให้การของพยาน และจะมีการติดตามผลที่สั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียดแต่ละประเด็นก่อนสรุปรายละเอียด เพื่อรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลอนุมัตออกหมายจับผู้ที่กระทำผิดเพิ่มเติม
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งรัดคดีดังกล่าว ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มเติม หลังมีข้อมูลเบื้องต้นว่าบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด ที่ธนาคารได้ว่าจ้างให้เปลี่ยนระบบป้องกันอัคคีภัย มีการว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงต่ออีกประมาณ 3 บริษัท โดยจะต้องตรวจสอบว่าบริษัทที่ได้รับการว่าจ้างต่อนั้นได้มาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ และต้องตรวจสอบรายละเอียดในสัญญา ระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์กับบริษัท เมก้า กว่า 27 หน้า ที่ระบุไว้ว่าหากมีการว่าจ้างบริษัทรับช่วงต่อต้องได้รับความยินยอมจากธนาคาร ซึ่งจะต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน
ส่วนกรณีที่บริษัท เมก้า ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าเป็นผู้เข้าไปเปลี่ยนระบบป้องกันอัคคีภัยจากเดิมระบบไพโรเจนเป็นไนโตรเจน มีมาตรฐานความปลอดภัยนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ระบุว่า ถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ แต่ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะพนักงานสอบสวนยืนยันว่าเรายึดหลักความยุติธรรมและความถูกต้องตามพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในวันนี้ก็ได้ลงไปดูในพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ก็สอดคล้องกับสำนวน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานที่จะดำเนินคดีกับธนาคารไทยพาณิชย์ ฐานประมาทร่วมได้ พร้อมยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีโดยยึดหลักพยานหลักฐานที่ชัดเจนและแน่นหนา ก่อนขออำนาจศาลอนุมัตออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งบุคคลและนิติบุคคล ส่วนจะออกหมายจับใคร จำนวนกี่คนยังไม่ขอเปิดเผย
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีระบบดับเพลิงอัตโนมัติภายในอาคารเอสซีบีปาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ทำงานขณะผู้รับเหมากำลังทำงานอยู่จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 2 ราย ได้เข้ามามอบตัวแล้ว ส่วนจะสามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้หรือไม่ นั้นอยู่ที่พยานหลักฐานว่าจะเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนอาจเรียกบริษัทรักษาความปลอดภัย รวมถึงทุกบริษัทที่เกี่ยวข้อง มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนพยานไปแล้ว จำนวน 16 ปาก จาก 20 ปาก ส่วนจะมีพนักงานของทางธนาคารเกี่ยวข้องกับความผิดว่ามีความบกพร่องหรือไม่ชี้แจงรายละเอียดหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทาหรณ์ให้มีการเข้มงวดในการตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยให้มากขึ้น ว่ามาตรการที่มีนั้น เมื่อเกิดเหตุขึ้นจริงจะสามารถดำเนินการตามได้หรือไม่ ขณะเดียวกันวันนี้ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ผบก.น.2 ก็จะเดินทางไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยสอบสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งว่ามีส่วนบกพร่องจนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องดังกล่าวหรือไม่"ผบ.ตร.ระบุ