MGR Online - ตำรวจตามรวบผู้ต้องหาคดีเครือข่ายยูฟันลำดับที่ 95 หลังหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุนกับบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด เป็นเงิน 280,000 บาท เหยื่อรู้ตัวเข้าแจ้งความกลับโทรศัพท์ข่มขู่นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลจับกุม นายเรืองทรัพย์ หรือ กฤตภพ เศรษฐชัยกร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/426 หมู่ที่ 6 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1313/2558 ลง 23 มิ.ย. 2558 ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์และร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าเป็นเครือข่ายคนสำคัญในภาคตะวันออก และเป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 95 โดยพฤติการณ์การกระทำความผิดจากการสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่า มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการหลอกลวงให้ลงทุนกับ บริษัท ยูฟัน โดยผู้ต้องหานี้ เป็นผู้ติดต่อชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อ ยูโทเค่น และผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน จำนวน 2 ราย โดยจากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่า นายกฤตภพ เศรษฐชัยกร (หลังจากการะทำความผิดผู้ต้องหาได้เปลี่ยนชื่อ เป็นนายเรืองทรัพย์ เศรษฐชัยกร แล้วหลบหนีการจับกุม) ร่วมกับ นายเอกภพ และ นางสาววิไลวรรณ ทรงสวรรณ ทำหน้าผู้บรรยายชักชวนให้ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย เข้าร่วมลงทุนกับธุรกิจบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด เป็นเงิน 280,000 บาท และเมื่อ นายเรืองทรัพย์ ทราบว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งให้การว่าผู้ต้องหานี้เป็นผู้ชักชวนร่วมลงทุนกับบริษัท ยูฟัน นั้น เมื่อทราบความจริงว่าผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหานี้ได้โทรศัพท์ติดต่อข่มขู่ผู้เสียหายให้เกิดความเกรงกลัว
“จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาเป็นสมาชิกของบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด โดยทำหน้าที่บรรยายชักชวนประชาชนทั่วไปให้หลงเชื่อ และเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท และเผยแพร่ภาพกิจกรรม การบรรยายธุรกิจยูฟันอวดอ้างให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อทางสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก และผู้ต้องหาเป็นสมาชิกลูกข่ายดาวไลน์ของนายเอกภพ และ น.ส.วิไลวรรณ ทรงสวรรณ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ผู้นำกลุ่มยูฟัน สาย อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี ซึ่งถูกจับพร้อมรถยนต์ และเงินสดจำนวนประมาณ 1,240,000 บาท และจากการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา พบว่า ผู้ต้องหาเปิดบัญชีธนาคารรับโอนเงินที่มีจำนวนเงินสัมพันธ์กับแพ็กเกจของธุรกิจบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด เป็นเงิน จำนวน 3,027,500 บาท และมีการโอน - รับโอนเงินจากผู้ต้องหาในคดีนี้ รวมเป็นเงิน 3,337,805 บาท รวมเป็นเงินหมุนเวียนทั้งหมด 6,365,305 บาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานโรงงานและขายก๋วยเตี๋ยว โดยเห็นว่าธุรกิจดังกล่าวมีรายได้ดีจึงตัดสินใจเข้าร่วม อีกทั้งยังได้มีการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 5 ครั้ง และยังได้มีการข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดกับตนเองฐานหลอกลวงอีกด้วย
