MGR Online - เซียนพระเครื่องย่านเมืองนนทบุรีโร่แจ้งความตำรวจตามรวบสองช่างก่อสร้างต่อเติมบ้าน ขโมยพระเครื่องมูลค่า 80 ล้านบาท หลังไว้เนื้อเชื่อใจเข้าออกบ้านโดยสะดวก
วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ จับกุมนายสมชาย เจริญศักดิ์ อายุ 30 ปี นายสมศักดิ์ เจริญศักดิ์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน พร้อมของกลางพระเลี่ยมทองจำนวน 3 องค์ ตระกรุด เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน พระเนื้อเงินพิมพ์ต่างๆ เหรียญพระสะสมเนื้อเงินทอง กำไลข้อมือแกะสลัก และพระเครื่องอื่นๆ นับพันรายการ รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านซอยโรงหมู ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 59 ร.ต.ท.ชนินทร์ เพ็ชรคำ พงส.สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งจากนายพิชญ์พิเชษฐ์ อังศุนาค อายุ 38 ปี ผู้เสียหายว่าได้พบแบบพิมพ์พระเนื้อเงินที่ผู้เสียหายจ้างให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้ออกแบบและผลิตให้ถูกนำมาลงขายทางอินเทอร์เน็ต ผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบในบ้านพักพบว่าแบบพิมพ์ของตนและพระเครื่องอีกหลายรายการหายไปจากบ้านพัก ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อขอซื้อแบบพิมพ์คืนจากผู้ที่นำมาประกาศขายทางเฟซบุ๊ก ก่อนที่จะตกลงนัดเจอกัน ต่อมาผู้เสียหายกลับไม่สามารถติดต่อกับคนขายได้ และเมื่อเข้าไปตรวจสอบในเฟซบุ๊กก็ได้ถูกปิดไป จึงเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยติดตามคนร้ายที่ขโมยแบบพิมพ์ของตนไปมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้เสียหายอย่างละเอียด จนกระทั่งผู้เสียหายสงสัยว่าคนที่ลงมือขโมยไปนั้นน่าจะเป็นคนงานที่มารับต่อเติมบ้านที่ตนจ้างมาไว้ใจสามารถเข้าออกบ้านได้โดยสะดวก คือ นายสมชาย และนายสมศักดิ์ โดยตนได้ให้พักอาศัยอยู่บ้านอีกหลังที่อยู่ตรงข้ามกัน ผู้เสียหายจึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้นอย่างละเอียดพบพระเครื่องแบบพิมพ์ต่างๆ ของผู้เสียหายที่ได้สะสมไว้หลายรายการ และพระที่เตรียมไว้ให้กับลูกค้า เมื่อคิดเป็นราคาในตลาดพระมีมูลค่าสูงกว่า 80 ล้านบาท ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกับนำพระเครื่องทั้งหมดมาตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นยังพบว่ายังมีพระเครื่องอีกหลายองค์ที่ยังไม่ได้คืนเนื่องจากผู้ต้องหาได้ขายไปแล้ว
ส่วนทางด้านผู้เสียหายกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าตนมีทำธุรกิจรับทำพระเครื่อง โดยเปิดร้านอยู่ศูนย์พระเครื่องพันทิพย์ งามวงศ์วาน ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้นตนได้จ้างมาช่วยพิมพ์พระที่บ้าน ตั้งแต่เดือน ต.ค. 58 จนไว้เนื้อเชื่อใจกัน โดยไม่คิดว่าทั้งสองคนซึ่งเป็นลูกน้องจะมาเป็นคนลงมือขโมยเสียเอง
ด้าน พ.ต.อ.ต่อพงษ์ได้กล่าวว่า จากสืบสวนพบว่ามีการนำทรัพย์สินไปขายต่อกับไปและมาบางส่วนได้นำไปออกขายทางอินเทอร์เน็ตจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนว่านำพระไปขายให้ใครบ้าง หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและไม่นำมาคืนให้ผู้เสียหายและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และข้อหารับซื้อของโจรต่อไป