MGR onlin - ไฟไหม้ทาวน์เฮาส์ดัดแปลงเป็นโกดังเก็บไม้ตียุง ย่านท่าข้าม สาวจีนตกใจ พลัดตกชั้น 3 หัวกระแทกพื้น ดับอนาถ ตำรวจเร่งสอบพยาน - หลักฐาน หาสาเหตุ ด้านตำรวจเผยทั้งครอบครัวเป็นคนจีน พูดไทยไม่ได้ ต้นเพลิงเกิดที่ชั้น 3 ทำให้ไม่สามารถหนีลงมาได้
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ร.ต.อ ถิรายุ วงศ์สิงห์ พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านสินทวี แกรนด์วิลเลจ ซอยอนามัยงามเจริญ 19 ถนนพระราม 2/47 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วันชัย อยู่แสง รอง ผบก.น.9 พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม พ.ต.ท.สมพัฒน์ อุ่นคำ สว.สส.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 10 คัน
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นบ้านทาวน์เฮาส์แฝด ความสูง 3 ชั้น ปลูกติดกันประมาณ 30 คูหา พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมาก อยู่บนชั้นที่ 3 ของบ้านพักเลขที่ 150/315 ซึ่งมีลักษณะเป็นโกดังเก็บสินค้าประเภทไม้ตียุง ไฟฉาย ขั้วหลอดไฟและสายไฟ ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามไปยังชั้นที่ 2 เสียหายทั้งหลังอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสถานที่เกิดเหตุเป็นซอยค่อนข้างคับแคบ เจ้าหน้าที่สามารถนำรถดับเพลิงเข้าถึงได้เพียง 4 คัน รวมทั้งบ้านต้นเพลิงยังล็อกประตูทางเข้าออกบริเวณชั้นล่าง จึงต้องลำเลียงหัวฉีดและสายยางมาระดมฉีดน้ำสกัดอย่างยากลำบาก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบบริเวณหน้าบ้าน พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ไม่ทราบชื่อ สัญชาติจีน อายุประมาณ 30 ปี ผิวขาว รูปร่างท้วม สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีชมพู ซึ่งพลาดลื่นไถลจากระเบียงชั้นที่ 3 ลงมา ศีรษะกระแทกพื้นด้านล่าง ขณะกำลังหนีไฟ เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อชันสูตรหาสาเหตุอย่างละเอียด
จากการสอบสวน นายศรกฤษณ์ วงศ์ผกาทิพย์ อายุ 43 ปี เพื่อนบ้าน ได้ความว่า ตนพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 150/323 ซึ่งอยู่เยื้องกับบ้านผู้ตาย โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในบ้าน จู่ ๆ ก็ได้มีควันไฟลอยเข้ามาในบ้าน และได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือเป็นภาษาอังกฤษว่า “help me” จึงรีบออกมาดู ปรากฏว่า พบกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบริเวณชั้น 3 ของบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือ “help me” ในสภาพมือหนึ่งเกาะลูกกรงเหล็กตรงระเบียงไว้ ส่วนอีกมือถือโทรศัพท์มือถืออยู่ ตนจึงบอกให้ใจเย็น ๆ และหาทางช่วย โดยการถอดเสื้อออกนำไปชุบน้ำ แล้วเข้าไปพยายามเปิดประตูบ้านที่ไฟไหม้ แต่ประตูคล้องแม่กุญแจอยู่ เลยตัดสินใจขอปีนบ้านหลังข้าง ๆ ขึ้นไป เป็นจังหวะที่ผู้ตายที่กำลังตื่นตกใจพลาดพลัดตกลงมาศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิต สำหรับบ้านที่เกิดเหตุ ตนทราบเพียงว่า มีชาวจีนสามีภรรยาคู่หนึ่ง อายุไม่เกิน 30 ปี มาเช่าเอาไว้เพื่อเก็บสินค้าประเภทอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และไม้ตียุง เพื่อส่งขายตามตลาดนัด ส่วนผู้ตายคาดว่าเป็นลูกจ้าง ทำหน้าที่เฝ้าดูแลข้าวของ ตามปกติทุกวันตอนเช้าสามีภรรยาคู่นี้จะขับรถกระบะออกไปส่งสินค้า กว่าจะกลับก็ช่วงหัวค่ำ
ด้าน พ.ต.ท.ธนเดช เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบผู้ตายเป็นใคร เนื่องจากไม่มีเอกสารติดตัว และชาวจีนทั้ง 3 รายที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ ก็ไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนบ้าน เพราะพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่เชื่อว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายน่าจะพักผ่อนอยู่บนชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นจุดต้นเพลิง ทำให้ไม่สามารถวิ่งหนีลงมาด้านล่างทางบันไดได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังติดตามเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวที่เป็นผู้ให้เช่า และรอสามีภรรยาชาวจีนผู้เช่าที่ขับรถกระบะออกไปส่งของตั้งแต่ช่วงเช้ากลับมา เพื่อดำเนินการสอบปากคำ โดยจะประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ให้แน่ชัด ก่อนประเมินมูลค่าความเสียหาย เพื่อสรุปสำนวนคดีตามกฎหมายต่อไป