xs
xsm
sm
md
lg

จับพ่อค้าขนมถ้วย ซื้อปืนทางเน็ตจี้ชิงเงิน 2.3 แสนกรุงไทย บางขุนเทียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - ชุดสืบสวนบางขุนเทียน ตามรวบหนุ่มพ่อค้าขนมถ้วย ใช้ปืนจี้ชิงเงิน 2.3 แสน ธ.กรุงไทย สาขาบางขุนเทียน สารภาพ เศรษฐกิจไม่ดี ขายขนมแย่ แถมมีหนี้สิน ตัดสินใจซื้อปืนในอินเทอร์เน็ตบุกเดี่ยวจี้ชิงเงิน มาชำระหนี้ - ซื้อ จยย. ใหม่ จนหมดเกลี้ยง

วันนี้ (25 ม.ค.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.ท.วิเชียร เพชรเสนา สว.กก.สส.บก.น.9 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายนพพล หรือ ไม พงศ์ฉบับนภา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 4 ต.มะเร็ด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 112/2559 ลงวันที่ 23 ม.ค. 59 ข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพานะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

พร้อมของกลาง 1. รถ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน 2. รถจยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาวส้ม ทะเบียน สนท 626 กรุงเทพมหานคร 1 คัน 3. รถ จยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นเอ็มสแลช สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นรถใหม่ยังไม่ได้ป้ายทะเบียน 1 คัน 4. อาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน 13 นัด 5. เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 ชุด 6. สร้อยคอทองคำขาว มูลค่า 15,000 บาท จำนวน 1 เส้น และ 7. รถกระบะยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฒอ 1119 กรุงเทพมหานคร 8. กล้องดิจิตอล 1 ตัว และโทรทัศน์แอลอีดี 43 นิ้ว 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมพร้อมของกลางได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 72/52 ซอยเอกชัย 4 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.20 น. นายนพพล ผู้ต้องหา ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์เงินสดของธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนเทียน ได้เงินไปประมาณ 223,400 บาท ก่อนขับขี่รถ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดอยู่ด้านหน้าธนาคารหลบหนีไป จากการสืบสวนขยายผลของชุดคลี่คลายคดี สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 พบหลักฐานภาพของคนร้าย เป็นไปตามภาพกล้องวงจรปิด จึงขออนุมัติหมายศาล จากนั้นแกะรอยตามล่าตัว จนพบเบาะแสว่า นายนพพล เช่าบ้านพักอยู่ในซอยเอกชัย 8 จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบ จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด

จากการสอบสวน นายนพพล ให้การรับสารภาพว่า ครอบครัวที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำธุรกิจขายเครื่องมือก่อสร้าง ปกติบิดาจะส่งเงินมาให้ใช้จ่ายทุกเดือน ขณะที่ตนก็ประกอบอาชีพรับส่งขนมถ้วยให้ร้านค้าย่านฝั่งธนบุรี มีรายได้เดือนละประมาณ 20,000 - 30,000 บาท แต่ช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดี บิดาไม่ส่งเงินมาให้และรายได้จากที่ตนขายของก็ลดลง ทำให้ค้างค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่างวดรถกระบะนานหลายเดือน จึงวางแผนชิงทรัพย์ธนาคารดังกล่าว เนื่องจากอยู่ใกล้บ้านเช่าไม่เกิน 2 กม. โดยสั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ตราคากระบอกละ 40,000 บาท มาเก็บไว้ จนเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ขับขี่ รถ จยย. มาสำรวจเส้นทางหลบหนี ก่อนตัดสินใจลงมือในวันที่ 22 ม.ค. ได้เงินทั้งหมด 223,400 บาท เลยนำไปจ่ายหนี้สินที่ค้างชำระ ซื้อกล้องดิจิตอล ดาวน์รถ จยย. คันใหม่ ซื้อโทรทัศน์แอลอีดี เปลี่ยนล้อแม็ก ติดแรคหลังคารถกระบะ ซื้อทองคำขาว และใช้จ่ายทั่วไปจนเงินหมดเกลี้ยง

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.ศานิตย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน และกก.สส.บก.น.9 ได้ควบคุมตัว นายนพพล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนเทียน โดยพาตัวไปชี้จุดจอดรถ จยย. ฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อนเดินขึ้นไปบนธนาคาร แล้วชักปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับ จากนั้นจึงกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดเงินสดในลิ้นชักทั้งหมด 3 เคาน์เตอร์ นำยัดใส่กระเป๋าสะพายสีดำที่เตรียมมา แล้วเดินออกจากธนาคาร ไปขึ้นรถ จยย. ที่จอดไว้หลบหนี โดยขณะหลบหนี นายนพพล ยังชักปืนขู่ รปภ. ที่เข้ามาขวาง ทำให้สามารถเร่งเครื่องรถ จยย. หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปได้อย่างหวุดหวิด


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น