MGR Online - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.อุดมสุข จับกุมชายวัย 40 ปี ตระเวนขี่จักรยานยนต์ก่อนบุกเข้าไปลักทรัพย์ตามหอพักหรืออพาร์ตเมนต์ รับสารภาพก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหายังเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันมาแล้ว
วันนี้ (23 ม.ค.) เวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคลรอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รอง ผบก.น.4 รรท.ผกก.สน.อุดมสุข พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข ได้ร่วมกันจับกุมนายสามารถ ทองนวล หรือหนู อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.3 ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นสกูปปี้ สีขาว-น้ำเงิน ทะเบียน 3 กธ 6367 กทม. หมวกกันน็อก แบบเต็มใบสีเทา แว่นตา 2 อัน เสื้อโปโลสีดำ เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำตาลอ่อน เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ เสื้อกีฬาคอกลมสีฟ้า-ขาว เสื้อโปโลสีขาว โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเลอโนโว สีดำ 1 เครื่อง ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยสามารถจับกุมได้บริเวณหน้า สน.อุดมสุข ถ.รามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.
โดยพฤติการณ์คนร้ายจะเลือกเวลาก่อเหตุช่วงประมาณ 05.00-07.00 น. โดยขี่จักรยานยนต์ของกลางมาจอดใกล้บริเวณนริตา อพาร์ตเมนต์ แยกสวนมหาดไทย แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ก่อนเข้าไปภายในอาคารดังกล่าวทำทีเป็นผู้พักอาศัย จากนั้นจะเดินเปิดประตูทุกห้อง เมื่อเห็นว่าห้องไหนไม่ได้ล็อกประตูไว้ จะเข้าไปลักทรัพย์ทันทีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้เสียหายยังนอนหลังอยู่ ขณะเดียวกัน คนร้ายจะเลือกทรัพย์สินที่สามารถหยิบฉวยได้ง่าย เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ก่อนขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในอาคารที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี รวมถึงหาข้อมูลเพื่อติดตามคนร้ายดังกล่าว พร้อมตรวจสอบแผนประทุษกรรมย้อนหลัง จึงทราบว่ามีเหตุลักทรัพย์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น 4 ครั้งในพื้นที่เดียวกันเมื่อปี 2555 ซึ่งผู้ต้องหาตามแผนประทุษกรรมย้อนหลัง คือ นายสามารถ ทองนวล หรือหนู จึงทำการสืบสวนจนกระทั่งสามรถจับกุมตัวได้
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์จริง และยังก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ใกล้เคียงรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป