MGR Online - ผู้เสียหายคดียาเสพติดขอความเป็นธรรมกับ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังติดคุกฟรี 1 ปี เรือนจำปราจีนบุรี ช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยาและลบประวัติอาชญากรรมออก
วันนี้ (11 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ชั้น 8 สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายพงศกร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้เสียหายคดียาเสพติด เดินทางร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมหลังจากถูกขังฟรีระยะเวลา 1 ปี
นายพงศกร กล่าวว่า เมื่อปี 2553 ตนรู้จักกับ น.ส.วรรณาพร วรโพธิ์ ซึ่งพักอาศัยอยู่ จ.ปราจีนบุรี ทางโซเชียลมีเดียและติดต่อกันมาตลอด ต่อมาประมาณเดือน ต.ค.2555 ตนเดินทางไป จ.ปราจีนบุรี เพื่อไปพา น.ส.วรรณาพร และได้ไปพักอยู่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ไม้เค็ด อ.เมืองปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายอนันตชัย ปานะพราหม ญาติของ น.ส.วรรณาพร
นายพงศกร กล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 15 ต.ค.55 ตำรวจ สภ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ได้บุกมาตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว โดยตำรวจนำตัว นายสราวุธ วรรณโอทอง ผู้ต้องหายาเสพติดที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้มายืนยันว่าซื้อยาเสพติดมาจากบ้านของ นายอนันตชัย ซึ่งระหว่างนั้น ตน กับ น.ส.วรรณาพร กำลังนอนอยู่ภายในบ้าน และจากการตรวจค้นพบยาบ้า 114 เม็ด กับ กระสุนปืนคาร์ไบน์ขนาด .30 คาร์บิน 1 นัด
นายพงศกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและกระสุนปืนดังกล่าว รวมทั้ง นายสราวุธ ผู้ต้องหายาเสพติดก็สารภาพว่าซื้อยามาจาก นายอนันตชัย เจ้าของบ้านไม่ได้รับยาจากตนแต่อย่างใด นอกจากนี้ น.ส.วรรณาพร ยืนยันของกลางทั้งหมดเป็นของเจ้าบ้านจริง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อส่งตนและ น.ส.วรรณาพร ดำเนินคดีทางกฎหมาย
“ผมปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน อีกทั้ง ผู้ต้องหาในคดี อย่าง นายสราวุธ และ น.ส.วรรณาพร ก็ยืนยันว่าผมไม่มีส่วนรู้เห็นแต่สุดท้ายผมก็ถูกขังในเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรีระหว่างพิจารณาคดี หลังจากนั้นไม่นาน นายอนันตชัย เจ้าของบ้านที่พักยาเสพติดมาถูกตำรวจจับที่ จ.นครนายก และมีการให้ นายสราวุธ ไปชี้ตัวพร้อมกับยืนยันว่ารับยาเสพติดมาจาก นายอนันตชัย ไม่ใช่ผม” นายพงศกร กล่าว
นายพงศกร กล่าวปิดท้ายว่า ตนออกจากเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 16 ต.ค.56 เป็นเวลา 1 ปี หลังจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องเนื่องจากศาลเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะคำให้การของผู้ต้องหายืนยันว่าตนไม่เกี่ยวและหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตนเดินทางมาวันนี้เพื่อขอความเป็นธรรมเรื่องเงินเยียวยาหลังติดคุกฟรี 1 ปี และ ขอลบประวัติอาชญากรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้ 2 ส่วน 1.กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้คณะกรรมการพิจารณาตามระเบียบกฎเกณฑ์ซึ่งไม่มีหลักฐานว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดชัดเจน โดยเงินเยียวยาคาดว่าประมาณ 130,000 บาท และ 2.กรมคุมประพฤติ ให้ไปสืบเสาะบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้ง คนในพื้นที่ที่เกิดเหตุ พยาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ เพื่อหาข้อเท็จจริง โดยคาดว่าใช้เวลาไม่นานจะได้ข้อสรุป
