หนุ่มอาการทางจิตถูกเพื่อนรุ่นพี่ที่มีอาการเหมือนกันขู่ฆ่าทิ้ง ถ้าไม่เอายากล่อมประสาทไปให้ให้ครบ 30 เม็ด เกิดอาการประสาทหลอนคว้าปืนพกสั้นของพ่อบุกยิงถึงบ้านพักย่านบางแวก บาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
วานนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท. ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช ผบก.น.7 พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รอง ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.บางเสาธง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายภูวเดช ชนภัคเอกวรา หรือโย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 ถนนราชมนตรี แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ (ลูกโม่) ขนาด .38 ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน เครื่องหมายทะเบียน กท 3707544 หมายเลขประจำปืน BRL1533 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 ปลอก และจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีเขียว-ขาว หมายเลขทะเบียน อวว 787 กทม. โดยสามารถจับกุมได้บริเวณ สน.บางเสาธง ซอยบางแวก ซอย 2 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 59 เวลาประมาณ 12.00 น. ในข้อหาฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว
พ.ต.อ.พิทักษ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา นายรุ่งชาย คำจุนลา หรือโต้ และนายไพโรจน์ พันธุ์ไทย หรือบอย กลับจากทำธุระ และกำลังจะเข้าบ้านพักเลขที่ 32 ซอยบางแวก 71 ซอย 3 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. พบนายภูวเดชมารออยู่หน้าบ้าน นายรุ่งชายได้เข้าไปพูดคุย จากนั้นนายภูวเดชขับขี่จักรยานยนต์ออกไป ต่อมานายภูวเดชขี่จักรยานยนต์กลับมาแล้วเข้าไปพูดคุยกับนายรุ่งชายภายในบ้าน โดยใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 10 นาที จากนั้นมีเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้น 3 ครั้ง และนายภูวเดชได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมามีพลเมืองดีนำนายรุ่งชายส่งโรงพยาบาลพญาไท 3 ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสืบสวนทราบว่านายภูวเดชมีอาการทางจิต เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และรับยาไดซีแกรม หรือยากล่อมประสาทชนิดรุนแรงมารับประทานวันละ 2 เม็ดทุกครั้ง เนื่องจากยาดังกล่าวไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปจะต้องถูกสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ซึ่งบิดาและพี่สาวก็มีอาการทางจิตเช่นกัน ส่วนนายรุ่งชายเคยใช้ยากล่อมประสาทตอนที่จำคุกอยู่ ก่อนพ้นโทษออกมาได้ 2 ปี และมีความสนิทสนมกับนายภูวเดช จึงใช้ความอาวุโสข่มให้นายภูวเดชเอายามาให้วันละ 10 เม็ด โดยในวันเกิดเหตุนายรุ่งชายได้สั่งให้นายภูวเดชเอายามาให้ที่บ้าน แต่นายภูวเดชเอายามาให้แค่ 4 เม็ด จึงเกิดมีปากเสียงกัน นายรุ่งชายตบไปที่หน้านายภูวเดชและขู่ว่าถ้าไม่เอายามาให้ภายในวันนี้จำนวน 30 เม็ดจะฆ่าทิ้ง นายภูวเดชที่มีอาการทางจิตอยู่แล้วจึงเกิดอาการประสาทหลอน นำอาวุธปืนของพ่อที่เคยเป็นพนักงานเก็บเงินธนาคารแห่งหนึ่งมายิงนายรุ่งชายก่อนจะหลบหนีไป