MGR Online - พล.ต.อ.จักรทิพย์ พ้อสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ตั้งฉายา “ผบ.เสียทรง” ขอบคุณที่ตั้งฉายาแต่เสียความรู้สึก
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ตั้งฉายา “ผบ.เสียทรง” ว่า ตนต้องขอขอบคุณที่ร่วมกันตั้งฉายานี้ให้ แต่หากถามว่าเสียความรู้สึกหรือไม่นั้น ก็เสียความรู้สึก แต่ตนขอชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ในขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ตร. อยู่นั้น ท่านก็ไม่ได้ทำงานมากมาย แต่ได้มอบหมายงานให้แก่ รอง ผบ.ตร. แต่ละคนรับผิดชอบ
ซึ่งท่านก็มอบหมายให้ตนรับผิดชอบเรื่องงานสืบสวน งานความมั่นคง เพราะฉะนั้นบทบาทการทำงานก็ไปรวมอยู่ที่ รอง ผบ.ตร. ส่วนรูปแบบการทำงานของ ผบ.ตร. จะดำเนินการตามรูปแบบของ ซีอีโอ ในการบริหารโดยรับนโยบายจากรัฐบาล เพื่อมาถ่ายทอดสู่การปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม การตั้งฉายาให้ตนแบบนี้ จะถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับตนเลย หรือจะไม่ให้แบ่งงานให้แก่ รอง ผบ.ตร. และมอบภาระให้ตนทำงานคนเดียว ตนก็ทำได้ แต่หลักการบริหารงานจะผิด เพราะในส่วนของการบริหารงานบุคคลจะต้องกระจายให้แก่ รอง ผบ.ตร. บริหารงานเท่านั้น
“ให้ฉายานี้แก่ผม เท่ากับผมไม่ได้ทำงานอะไรเลย ตั้งเสียฟอร์ม เสียทรง ใครเป็นผู้นำหน่วยงานก็ต้องทำแบบนี้กันทั้งนั้น โดยในภาพรวม ตนเป็น ผบ.ตร. แล้วจะให้ตนลงมาเฝ้าจุดเอง มันก็ไม่ใช่ ผมขอชี้แจงแบบนี้ว่าครั้งต่อไปหากจะตั้งฉายาใคร ก็ต้องทบทวนบทบาท ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนที่จะตั้งฉายาออกมาให้ปรากฏ ผมไม่มีสิทธิไปแก้ตัวแก้ต่างอะไรทั้งนั้น ซึ่งขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ถามคำถามนี้กับผม ผมก็ไม่รู้ว่าผมเสียฟอร์มตรงไหน” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อไปว่า ตนเพิ่งบริหารงานได้เพียง 3 เดือน ซึ่งยังไม่มีคดีใหญ่ ๆ นั่นสรุปว่า การป้องกันปราบปรามประสบความสำเร็จ เพราะยังไม่มีคดีใหญ่ให้ปรากฏ หรือจะให้มีคดีระเบิดแล้วให้ตนไปจับก็ได้ แต่ในรูปแบบการทำงานแล้วก็ต้องเลือกการป้องกันมาก่อนการแก้ไข เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตนทำมาตั้งแต่เป็นรอง ผบ.ตร. ถือว่าเป็นการรับคำสั่งจาก ผบ.ตร. ถามว่าทุกวันนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ก็ขับเคลื่อนตามหน้าที่ของตัวเอง โดยเฉพาะงานปราบปราม แต่ในส่วนของงานมั่นคงก็อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และในส่วนงานจราจรก็อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ 10) ซึ่งให้ตนทำทุกอย่างแล้วจะให้ รอง ผบ.ตร. อยู่เฉย ๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น สื่อไม่มีสิทธิ์จะตั้งฉายา “เสียทรง” แก่ตน ต้องทำความเข้าใจว่าลักษณะงานและโครงสร้างการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นรูปแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่นึกจะตั้งชื่อก็ตั้ง ควรจะมองทุกมิติ ว่าตนทำหน้าที่อะไรในปัจจุบันแล้วให้ไปเทียบเคียงเมื่อครั้นที่ตนเป็น รอง ผบ.ตร.
“หากอีกหน่อย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. แล้วไม่มีคดีออกมาให้เห็น ก็ไปตั้งฉายาว่า “เสียทรง” อย่างนั้นหรือ ดังนั้น การตั้งฉายาตำรวจในแต่ละปีก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยและอย่าไปคิดเอาเอง ทำให้ผมถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิติเตียนว่างานไม่ทำ แบบนี้ผมก็เสียหาย อย่าเขียนสนุกปากกาอย่างเดียว ผมก็ไม่เคยโกรธเคืองอะไร แต่ในบางครั้งก็ขอให้ดูบทบาทแต่ละคนด้วยว่าควรจะอยู่ตรงไหนและทำอะไรอยู่ รวมถึงฝากไปใคร่ครวญก่อนที่จะออกมาเป็นตัวหนังสือ คิดว่าตั้งฉายาอื่นจะดีกว่า ซึ่งคำว่า “เสีย” มันก็เสียอยู่แล้ว เสียทุกเรื่อง ส่วนใครจะเชียร์ใครมานั่งเก้าอี้ต่อไปก็แล้วแต่”
ผบ.ตร. ระบุ และว่า ตนอ่านหนังสือพิมพ์บางฉบับออกตัวเชียร์คนโน้นคนนี้ คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าภายในเดือน เม.ย. นี้ ตนจะอยู่รอดหรือเปล่า ถ้าอย่างนี้ก็ทำให้องค์กรตำรวจแตกแยก ในปีใหม่นี้ผมก็ไม่มีอะไร ก็อยากจะพูดกับสื่อในเรื่องดี ๆ แต่เมื่อถามก็ต้องตอบ เพราะตนก็ไม่มีโอกาสตอบคำถามกับสื่อเลย ผมไม่มีโอกาสชี้แจงเลย สื่อก็ลงข่าวทุกวัน ผมไปไหนก็ได้ยินแต่คำว่า “ผบ.เสียทรง” แบบนี้ ขอพูดแค่นี้ดีกว่า ปีใหม่แล้ว ก็อยากจะพูดเรื่องดี ๆ บ้าง