ครอบครัวเหยื่อกระสุนจ่าอากาศปืนโหดร้องกระทรวงยุติธรรม ขอค้านประกันตัวผู้ต้องหา หวั่นคดีไม่เป็นธรรม

MGR Online - บิดาและน้าสาวของช่างโครงสร้างโลหะ กรมช่างอากาศ ที่ถูก “จ่าประวิทย์” สังกัดเดียวกันใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตคาแฟลตทหาร เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อรองปลัดยุติธรรม หลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ขณะที่น้าสาวตั้งข้อสงสัยเป็นคดีอุกฉกรรจ์แต่กลับได้ประกันตัว พร้อมยื่นหลักฐานคลิปบันทึกเสียงอ้างตัวเป็นทหารขอให้ยอมความ

สืบเนื่องจากกรณี จ.อ.ประวิทย์ แก้วสุกใส อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ข้อมูลสังกัดกองกรรมวิธีข้อมูล กรมช่างอากาศ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงนายอิศรพงศ์ การสมลาภ อายุ 30 ปี พนักงานราชการ สังกัดกรมช่างอากาศ ตำแหน่งช่างโครงสร้างโลหะ เข้าที่ศีรษะจำนวน 3 นัด เสียชีวิตก่อนหลบหนีไป บริเวณชั้น 4 แฟลตบ้านพักทหารชั้นประทวน กรมช่างอากาศ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. ต่อมาวันที่ 13 ธ.ค. 58 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวที่ สน.เตาปูน และได้ประกันตัวออกไปในวันเดียวกันด้วยวงเงิน 500,000 บาท

ล่าสุด วันนี้ (16 ธ.ค.) เวลา 13.00 น. ชั้น 8 สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ นายสำเริง การสมลาภ อายุ 68 ปี พร้อมด้วยนางนภวรรณ ริชาร์ดส์ อายุ 49 ปี บิดาและน้าสาวของผู้เสียชีวิต นำข้อมูลหลักฐานเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังทราบเรื่องว่าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนเนื่องจากมองเป็นว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์

นางนภวรรณกล่าวว่า ตนเดินทางกลับมาจากประเทศออสเตรเลียเพื่อพักผ่อน แต่กลับเจอข่าวร้ายหลานชายมาเสียชีวิต โดยตนทราบเรื่องว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา สน.เตาปูน ปรากฏว่าได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน หลักทรัพย์วงเงิน 500,000 บาท ตนสงสัยว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์แต่เจ้าหน้าที่กลับให้ประกันตัว พร้อมอธิบายว่าเป็นดุลพินิจของตำรวจ

“วันนี้เดินทางมากับพ่อผู้ตายเพื่อร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม โดยนำหลักฐานเพิ่มเติมมาด้วย เช่น คลิปเสียงที่กล่าวอ้างตัวว่าเป็นทหารให้ยอมความ ภาพจากกล้องวงจรปิดจุดเกิดเหตุ พร้อมต้องการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาและเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ด้วย” นางนภวรรณกล่าว

นางนภวรรณกล่าวอีกว่า สำหรับหลานชายนั้นเพิ่งสอบเข้ามาทำงานในกรมช่างอากาศเมื่อเดือน ม.ค. 58 พักอยู่ชั้น 4 ชั้นเดียวกับผู้ต้องหา แต่ไม่รู้จักกันมาก่อน อุปนิสัยส่วนตัวของหลานชายชอบเล่นกีฬาและเป็นนักกีฬาฟุตบอลประจำของหน่วยงาน แต่ไม่รู้สาเหตุใดจึงเกิดเหตุทะเลาะกันจนถึงขั้นเอาชีวิต

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์ของผู้เสียหายเอาไว้พร้อมกับหลักฐานทั้งหมด โดยคลิปเสียงนั้นจะเอาไปแปลเป็นเอกสาร รวมทั้งเตรียมทำหนังสือส่งเรื่องไปยัง บช.น.เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีดังกล่าวอย่างเที่ยงธรรม ส่วนเรื่องการคัดค้านการประกันตัวนั้นเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมองว่าผู้ต้องหาเป็นข้าราชการไม่น่าจะหลบหนีจึงให้ประกันตัวได้ นอกจากนี้ ในวันที่ 18 ธ.ค.พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน จะเรียกผู้ต้องหาไปสอบปากคำพร้อมนายทหารพระธรรมนูญทนายความ ซึ่งทางผู้เสียหายกระทรวงยุติธรรมจะแต่งตั้งทนายความเข้าไปช่วยสังเกตการณ์ในวันดังกล่าวด้วยเพื่อเข้าช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรม