รวบยกแก๊งวัยรุ่นปล้นฆ่าชิงแท็บเล็ตพนักงานเอสแอนด์พี

‎MGROnline - ตำรวจ สน.ประชาชื่น รวบ “แก๊งวัดทอง” ฆ่าชิงแท็บเล็ตหนุ่มพนักงานพนักงานเอสแอนด์พี สาขาตึกชินวัตร 2 สารภาพเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ก่อนนำไปขายได้เงินมา 3,200 บาท

จากกรณีที่นายสมชาย สอาดจิตร์ อายุ 28 ปี พนักงานร้านเอสแอนด์พี สาขาอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 2 ถูกคนร้ายปล้นทรัพย์และใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกอาการสาหัส ก่อนพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.เปาโล สะพานควาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 2 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เมื่อกลางดึกของวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.บางซื่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รรท ผบก.น.2, พ.ต.อ.พัฒนา เพศยาวิน รอง ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สน.บางซื่อ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพัชรพงศ์ หรือฮุย แสงเดือน อายุ 19 ปี และนายธิติสรณ์ หรือปิง ภาณุวงษ์เจริญสุข อายุ 18 ปี รวมทั้งเยาวชนที่ร่วมก่อเหตุอีก 8 คน พร้อมของกลางจักรยานยนต์ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 1 กฉ 8432 กทม. และจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์จำนวน 3 คัน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในซอยประชาชื่น 37 แยก 9 ถนนประชาชื่น แขวงและเขตบางซื่อ กทม.

พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์นายสมชายและใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต บริเวณอาคารชินวัตร 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามขยายผลกระทั่งเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน มีรายงานว่าพบคนร้ายลักษณะรูปพรรณคล้ายภาพที่ปรากฏตามข่าวบริเวณซอยประชาชื่น 37 จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านพักหลังดังกล่าว พบนายพัชรพงศ์ พร้อมกลุ่มเยาวชน อายุ 15-17 ปี จำนวน 5 คนนั่งอยู่ภายในบ้านพัก ก่อนขยายผลเข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน ประกอบด้วย นายแฟร้งค์, นายไบรท์ ทั้งสองคนเป็นคนแทงผู้ตาย และกลุ่มเยาวชนอีก 2 คน พร้อมของกลางจักรยานยนต์ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 1 กฉ 8432 กทม. ได้ภายในบ้านพักย่านซอยวัดทอง ถนนกรุงเทพฯ-นนท์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาที่ สน.ประชาชื่น

พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยต่อว่า จากการสอบสวนนายพัชรพงศ์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยในวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ก่อเหตุทั้งหมด 6 แห่งในพื้นที่ บก.น.2 ได้โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง และเงินสด 200 บาท กระทั่งจุดสุดท้ายหน้าอาคารชินวัตร 2 พบนายสมชายนั่งอยู่จึงจอดรถแล้วก่อเหตุ แต่นายสมชายขัดขืน นายแฟร้งค์และนายไบรท์จึงใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงทำการปล้นทรัพย์เป็นแท็บเล็ต ยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแลคซี่ โน้ต 3 ก่อนพากันหลบหนีไป จากนั้นนำไปขายที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซา ได้เงินมา 3,200 บาท แล้วนำเงินที่ได้มาแบ่งกันภายในกลุ่ม ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมีอาการมึนเมาจึงต้องทำการตรวจสอบว่ามีสารเสพติดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายพัชรพงศ์เคยมีประวัติคดีครอบครองยาเสพติดในพื้นที่ สน.ประชาชื่น

ด้านนายพัชรพงศ์กล่าวว่า นายไบรท์เป็นหัวหน้ากลุ่ม และจะไปรวมตัวกันทุกวันที่บ้านของนายโมจิกหนึ่งในกลุ่มที่ก่อเหตุ โดยตนมีหน้าที่เพียงขับขี่จักรยานยนต์ให้นายแฟรงค์และนายไบรท์ ขณะขับขี่อยู่นั้นหากนายไบรท์ต้องการจะก่อเหตุก็จะสั่งให้ตนจอดรถรอ และลงมือก่อเหตุร่วมกับนายแฟรงค์ ทั้งนี้ ตนและพวกทำไปเพราะความมึนเมาเนื่องจากรับประทานยาแก้ไอโปรโคดิลผสมกับสี่คูณร้อยทำให้เกิดอาการคึกคะนองจึงชักชวนกันไปก่อเหตุ ตนได้เงินส่วนแบ่งเพียง 600 บาท หลังจากนั้นนำเงินที่ได้ไปใช้เที่ยวเล่นตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายไปทำแผนเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากพร้อมด้วยฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิตที่มาเฝ้ารอดูการทำแผนด้วยความโกรธแค้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถให้ผู้ต้องหาลงมาทำแผนฯ ได้จึงใช้ตัวแทนในการทำแผนฯ แทน ส่งผลให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจส่งเสียงโห่ร้องเป็นระยะ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายฉลวย สอาดจิตร์ อายุ 60 ปี พ่อของผู้ตายได้เข้าพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ เพื่อขอบคุณที่ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายที่กระทำความผิดมาดำเนินคดี