เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมวัยรุ่นก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยว จากการสอบสวนผู้ต้องหาได้ก่อเหตุในหลายพื้นที่และเคยติดคุกในคดีวิ่งราวทรัพย์มาก่อน
วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รรท.รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.น. พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ แถลงผลการจับกุมนายมาก อิดละมุด หรือไจ้ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ปี 1989 สีฟ้า, รถยนต์ ฮอนด้าซีวิค 4 ประตู สีขาว, จักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง, จักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีขาว-ม่วง, โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง, กระเป๋าสตางค์ผู้หญิง 7 ใบ, กระเป๋าถือผู้หญิง 6 ใบ, กล้องดิจิตอล 1 ตัว และเกม psp จำนวน 1 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณภายในซอยสุเหร่าคลอง 1 แยก 3 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 58 เวลาประมาณ 21.05 น. ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป
พ.ต.อ.ขจรพงศ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ย.เวลาประมาณ 01.20 น. ได้มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ทองหล่อ ว่ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. เวลาประมาณ 23.50 น. ได้ถูกคนร้ายวิ่งราวกระเป๋าถือไป ระหว่างข้ามทางม้าลายบริเวณแยกอโศก ได้ทรัพย์สินกระเป๋าสะพายจำนวน 1 ใบ เงินสด 20,000 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 2 เครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกสืบสวนหาข่าว ต่อมาได้ภาพจากกล้องวงจรปิดรวมถึงทราบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจึงรวบรวมข้อมูลเพื่อขออนุมัติหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิดซึ่งคนร้ายได้ใช้เส้นทางหลบหนีหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่ สน.มักกะสัน สน.ห้วยขวาง สน.ดินแดง และ กก.สส.บก.น.5 ภายหลังทราบชื่อคนร้ายคือ นายไจ้ นายตี๋ และนายเป๋อ ทั้งสามคนมีรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิด
พ.ต.อ.ขจรพงศ์กล่าวอีกว่า ต่อมาทราบว่ากลุ่มคนร้ายหลบหนีไปพักอาศัยบริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในชุมชนสุเหร่าคลอง 1 เขตบางชัน ฝ่ายสืบสวน บก.น.5 และเจ้าหน้าที่ สน.ทองหล่อ จึงเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวก็พบกลุ่มวัยรุ่นนั่งดื่มสุรากันจึงแสดงตน กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงวิ่งแยกย้ายกันไป เจ้าหน้าที่สามารถจับตัวนายมากได้พร้อมของกลางจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงินและกระเป๋าถือสุภาพสตรีจำนวนมาก
จากการสอบสวนนายมากให้การรับสารภาพว่า ตนกับเพื่อนอีก 2 คนได้ไปวิ่งราวทรัพย์บริเวณแยกเหม่งจ๋ายแต่ไม่สำเร็จ จึงไปวิ่งราวทรัพย์ย่านสุทธิสาร ได้ทรัพย์สิน 600 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แต่ไม่พอจึงมาบริเวณอโศกปากซอยสุขุมวิท19 พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 คน แต่ก่อเหตุไม่สำเร็จ ตนกับพวกจึงมุ่งหน้าไปยังบริเวณแยกอโศก ระหว่างนั้นสังเกตเห็นผู้เสียหายกำลังเดินเข้าแยกอโศกจึงได้ลงมือก่อเหตุอีกครั้งก่อนจะหลบหนีไปทางคลองเตย และกลับรถบริเวณปากซอยสุขุมวิท 16 เพื่อย้อนมาดูจุดเกิดเหตุแล้วขับรถหนีไปทางแยกพระราม 9 ภายในซอยอยู่เจริญ เพื่อซื้อแอลกอฮอล์ ระหว่างนั้นเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกับแก๊งจักรยานยนต์ในซอยดังกล่าวจึงทำให้ทรัพย์สินบางส่วนหล่นหายไป ก่อนจะหลบหนีกลับที่พักย่านสุเหร่าคลอง 1
นายมากให้การอีกว่า ตนเคยเป็นนักแข่งรถโกคาร์ต แต่ค่าใช้จ่ายไม่พอใช้จึงเลือกที่จะก่อเหตวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางรัก สน.ห้วยขวาง สน.ลุมพินี สน.ทองหล่อ ทำเรื่อยๆ จนเป็นอาชีพ จนมีเงินใช้ไปแต่งรถแข่งและซื้อรถยนต์มาด้วย 1 คัน
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมนายมากเคยต้องโทษคดีวิ่งราวทรัพย์ท้องที่ สน.ลุมพินี เมื่อปี 2556 ติดคุก 1 ปี ก่อนจะออกมาก่อเหตุซ้ำในครั้งนี้