ASTV ผู้จัดการ - ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาแก๊งปล้นทรัพย์สารภาพลงมือทำมาแล้วหลายครั้งเน้นเหยื่อที่เป็นผู้หญิง หรือวัยรุ่นโดยใช้ปืนขู่ผู้เสียหาย ทรัพย์สินที่ได้นำไปขายมาแบ่งกันซื้อยาแก้ไอผสมสี่คูณร้อย และเที่ยวเตร่ จากการสอบสวนตำรวจพบประวัติการกระทำผิดของผู้ต้องหามากมายและไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ คาดว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วในหลายพื้นที่
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.ชาติภัทร พิเนตรบูรณะ สว.สส. แถลงผลการจับกุมตัว นายมนัส วงษ์สาจักษ์ หรือ อั้ม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295 หมู่ 10 ต.หนองใหญ่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด นายกำธร ก่อแก้ว หรือ มุ้ย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 10 ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ และนายกิตติศักดิ์ สะแสงสี หรือ เฟิร์ต อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาแก๊งปล้นทรัพย์ พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิกไอ 125 สีขาว - แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เคเอสอาร์ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุม นายไพรินทร์ หรือ กบ เสนาะกรรณ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1126/48 ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม. และนายมิ้นค์ หรือ แก่ เชื้อชุ่ม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1280/2 ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. ผู้ต้องหารับของโจร พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือซัมซุง เอส 4 สีขาว 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือไอโมบาย สีขาวทอง 1 เครื่อง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 25 ต.ค. เวลาประมาณ 03.00 น. นางสาวศิริรัตน์ สรรพงษ์ อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย ขณะยืนอยู่บริเวณระหว่างปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 11 กับ 13 ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวง/เขตลาดพร้าว กทม. ได้ถูกคนร้าย 3 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับมาจอดบริเวณใกล้เคียง จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เดินปรี่เข้ามาชักอาวุธปืนข่มขู่ พร้อมกล่าวว่าให้ส่งกระเป๋ามา ผู้เสียหายจึงรีบส่งให้ด้วยความกลัว แต่คนร้ายยังไม่พอใจ จึงบังคับให้ผู้เสียหายส่งโทรศัพท์มือถือที่อยู่ที่ตัวอีก แต่ผู้เสียหายหวาดกลัวแล้วทิ้งตัวลงนั่ง ทำให้คนร้ายรายนี้จึงใช้อาวุธปืนทุบที่ศีรษะไป 2 ครั้งจนแตก แล้วกระชากโทรศัพท์จากมือเหยื่อ ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด แล้วรีบขึ้นรถจักรยานยนต์พากันขับขี่หลบหนีไป ส่วนผู้เสียหายมีพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.ใกล้เคียงก่อนมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย
จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุหาเบาะแสกลุ่มคนร้าย พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดละแวกใกล้เคียง จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด รวมทั้งผู้ที่รับซื้อโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายได้จากการก่อเหตุ ก่อนคุมตัวสอบสวน ที่สน.โชคชัย เมื่อทำการตรวจสอบคนร้ายกลุ่มนี้ยังเคยก่อเหตุ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม เวลาประมาณ 01.05 น. ที่ผ่านมา นางสาวบุญวรา เลิศปรีชา อายุ 26 ปี ผู้เสียหายซึ่งมีอาชีพเป็นนางแบบพริตตี้ เล่าว่า ขณะเดินทางกลับบ้านโดยลากกระเป๋าเดินทาง เดินผ่านซอยโชคชัย 4 แยก 23 แขวง/เขต ลาดพร้าว กทม. ได้มีคนร้ายเป็นชาย ใช้อาวุปืน มาจี้บังคับให้ ส่งกระเป๋าเดินทางให้ แต่ผู้เสียหายไม่ยอม คนร้ายจึงได้ตีเข้าที่ท้ายทอย จึงได้ยื่นกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลมีเงินอยู่ภายใน จำนวน 1,000 บาท และโทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง รุ่น เอส4 ให้ แล้วคนร้ายวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนจอดรออยู่หลบหนีไปอีกด้วย
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า พวกตนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ซึ่งเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 5 - 7 ครั้ง โดยมักจะขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เมื่อพบเหยื่อเป็นผู้หญิง หรือเด็กวัยรุ่นจะเข้าไปทำการปล้นทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ หากเหยื่อคิดต่อสู้หรือขัดขืนจะใช้ด้ามปืนตบเข้าที่บริเวณศีรษะทันที ก่อนจะยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อความสะใจ แล้วหลบหนี หากได้ทรัพย์สินที่เป็นโทรศัพท์มือถือจะนำไปขายให้กับนายไพรินทร์ และนายมิ้นค์ เมื่อได้เงินมาจะนำไปแบ่งกัน เพื่อไปซื้อยาโปรโคดิว (ยาแก้ไอ ผสมสี่คูณร้อย) มากินและเที่ยวเตร่จนเงินหมด แล้วกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง สำหรับแก๊งนี้จะมีนายมนัสเป็นหัวหน้า มีฉายาว่า “อั้ม เสือใหญ่” เป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ทำหน้าที่ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่เหยื่อ ส่วนนายกำธร ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์คอยสังเกตุเลือกเหยื่อ และนายกิตติศักดิ์จะเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปร่วมกันก่อเหตุด้วย
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องห พบว่า นายมนัส เคยต้องคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ท้องที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 2553 และคดีลักทรัพย์ ท้องที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 2555 ส่วนนายกิตติศักดิ์ เคยต้องคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ท้องที่ สน.บางซื่อ เมื่อปี 2555 คดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ท้องที่ สน.พหลโยธิน เมื่อปี 2556 และนายกำธร เคยต้องคดีเสพยาเสพติด ท้องที่ สน.โคกคราม เมื่อปี 2555 คดีเล่นการพนัน ท้องที่ สน.โชคชัย ปี 2556 คดีการพนันไฮโล ท้องที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 2554
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะก่อเหตุมาแล้วจำนวนหลายครั้ง หลายท้องที่ หากมีผู้เสียหายรายใดถูกก่อเหตุลักษณะดังกล่าวสามารถเดินทางเข้าชี้ตัวได้ที่ สน.โชคชัย เพื่ออายัดตัวดำเนินคดีอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด และทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” แก่นายมนัส นายกำธร และนายกิตติศักดิ์ ส่วนนายไพรินทร์ และนายมิ้นค์ แจ้งข้อหา"รับของโจร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป