ASTV ผู้จัดการ - จากกรณีนางสุทธิดา สกุลเอี้ยง อายุ 49 ปี และ ด.ช.กัมปนาท ดุสดี อายุ 5 ขวบ นอนหมดสติภายในรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอสเคป สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 กจ 1103 กรุงเทพมหานคร บริเวณลานจอดรถร้านอาหารครัวซองส์ ถ.สตรีวิทยา 2 ซอย 8 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (20 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร บก.จร. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย นำรถยนต์คันดังกล่าวส่งมายังแผนกงานตรวจสภาพรถของงานช่างเครื่องยนต์ตรวจพิสูจน์ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ทำให้นางสุทธิดาและเด็กชายกัมปนาทนอนหมดสติก่อนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ
พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียม สารวัตรงานช่างเครื่องยนต์และตรวจพิสูจน์ กก.5 บก.จร.กล่าวว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ สภาพโดยรอบ และเครื่องยนต์ของรถคันดังกล่าวอย่างละเอียด รวมถึงจำลองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุโดยทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้เป็นระยะเวลาตามคำให้การของนายบุญนำ ดุสดี สามีของผู้ตาย และระยะเวลาจากกล้องวงจรปิดตั้งเริ่มเหตุ เพื่อตรวจสอบหาว่าภายในห้องโดยสารพบก๊าซพิษจากท่อไอเสียปะปนอยู่ด้วยหรือไม่
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ข้อต่อท่อไอเสียระหว่างหม้อพักไอเสียด้านท้ายสุดของตัวรถขาดออกจากกัน โดยเกิดจากการผุพังตามระยะเวลาการใช้งาน ขณะเดียวกันยังพบว่า บริเวณรูระบายน้ำใต้ซุ้มล้อของยางอะไหล่เกิดการชำรุด เนื่องจากแผ่นปิดรูไม่สนิท จึงเป็นเหตุที่ทำให้ไอเสียจากรถย้อนกลับเข้าไปในห้องโดยสารได้ เนื่องจากมีระยะห่างกันเพียงนิดเดียว
นอกจากนี้ จากการทดลองสตาร์ทเครื่องยนต์เป็นระยะเวลาประมาณ 15 นาทีโดยไม่เปิดแอร์ พบว่าภายในห้องโดยสารตรวจพบก๊าซพิษปริมาณพอสมควร แต่เมื่อทดลองขณะเปิดแอร์แล้วก๊าซพิษภายในห้องโดยสารมีปริมาณลดลงแต่ไม่มาก หากเทียบกับระยะเวลาตามจริงในที่เกิดเหตุนานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงทำให้มีปริมาณก๊าซพิษสะสมเพิ่มขึ้น และอาจเป็นสาเหตุให้ทั้งสองแม่ลูกเสียชีวิตลงได้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจสอบเสร็จสิ้น จะดำเนินการส่งผลสรุปการตรวจรถยนต์ ให้พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย นำไปประกอบสำนวนคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น.พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียม สารวัตรงานช่างเครื่องตรวจพิสูจน์ กก.5 บก.จร. เปิดเผยผลการตรวจสอบภายหลังจากทดลองสตาร์ทรถยนต์ไว้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งจำลองสภาพรถให้เหมือนวันที่เกิดเหตุการณ์ ผลจากการตรวจวัดพบว่าค่าที่วัดได้สูงกว่าครั้งก่อนหน้านี้มาก จนทำให้เครื่องวัดส่งเสียงร้องเตือน ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อกับผลที่วัดค่าได้ในครั้งนี้ ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ จะทำการตรวจพิสูจน์ค่าก๊าซพิษใหม่อีกครั้ง โดยจะนำรถยนต์คันดังกล่าวจำลองสถานการณ์ให้เหมือนวันเกิดเหตุไปทดลองวิ่งใช้ระยะเวลา 2 ชั่วโมงตามคำให้การของนายบุญนำ ก่อนที่จะนำรถมาจอดไว้อีก 2 ชั่วโมง เพื่อวัดปริมาณค่าคาร์บอนมอนออกไซต์อีกครั้ง ก่อนจะสรุปผลส่งให้ทางพนักงานสอบสวนต่อไป
