ลุงปากเกร็ดโร่แจ้งความคนร้ายงัดกระบะคู่ใจขับหนีต่อหน้าต่อตา

ลุงวัย 70 ขึ้นโรงพักปากเกร็ด แจ้งความรถกระบะคู่ใจใช้งานมา 10 ปี ถูกงัดประตูขับหนีไปต่อหน้าต่อตาขณะจอดอยู่หน้าบ้าน เผยคนร้ายวนมา 2 รอบช่วงกลางดึกจึงขโมยสำเร็จ ด้านภรรยาเห็นเหตุการณ์เรียกรถเก๋งที่จอดอยู่ใกล้ๆ ให้ช่วยขับตาม แต่ถูกไล่ลงระหว่างทาง คาดเป็นรถของแก๊งคนร้าย

วานนี้ (14 ต.ค.) พ.ต.อ.มานะ เทียนเมืองปัก พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ ส.ภ.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดราก้อนอาย สีแดง หมายเลขทะเบียน 6291 นนทบุรี ขณะจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 22/1 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด รีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 58 เวลาประมาณ 02.42 น. ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพรถยนต์เก๋งของคนร้ายขับผ่านบ้านและรถกระบะของผู้เสียหายก่อนจะมาจอดรออยู่ไม่ไกล ต่อมาเวลา 02.44 น.คนร้ายเป็นชาย 1 คน รูปร่างท้วม สวมเสื้อสีกรมท่า กางเกงขาสั้นรองเท้าผ้าใบ ใส่หมวก เดินตรงเข้าไปที่รถกระบะคันดังกล่าวและได้งัดแงะประตูด้านซ้ายเข้าไปในรถใช้เวลานานหลายนาทีก่อนจะขับรถกระบะคันดังกล่าวหลบหนีออกไป

จากการสอบสวนนายชิน ร้อยผึ้ง อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/53 หมู่ 10 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ทราบว่า เวลาประมาณ 02.42 น.ขณะกำลังนั่งดูทีวีกับภรรยาอยู่ภายในบ้านได้ยินเสียงโครมมาจากบริเวณหน้าบ้านตรงที่มีรถกระบะจอดอยู่จึงเปิดหน้าต่างดูเห็นคนร้ายเดินอยู่ท้ายรถ จึงได้รีบวิ่งออกไปเปิดประตูบ้าน แต่ประตูหน้าบ้านมีเสียงดัง คนร้ายได้ยินจึงรีบหนีไปขึ้นรถเก๋งที่มีแม่ลูกจอดรออยู่แล้วรีบขับหนีออกไป นายชินรีบไปดูที่รถและเปิดประตูด้านคนขับปรากฏว่าประตูยังล็อกอยู่ นึกขึ้นได้ว่าข้างในมีของมีค่าจึงได้เอาไฟฉายไปส่องดูแต่ของยังอยู่ครบก็เลยขึ้นมาเล่าให้ภรรยาฟังว่ามีคนร้ายพยายามจะลักรถ หลังจากนั้นนายชินกับภรรยาได้นั่งเฝ้าคนร้ายจนถึงประมาณตี 4 เกรงว่าคนร้ายย้อนกลับมาอีกครั้ง ในขณะที่กำลังดูข่าวทางทีวีเวลาประมาณ 05.10 น.ก็ได้ยินเสียงมีคนมาติดเครื่องรถ และภรรยาตะโกนเสียงดังว่ามีคนขโมยรถก็เลยรีบวิ่งไปดูแต่ไม่ทัน คนร้ายขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา

นายชินกล่าวว่า รถคันนี้เป็นรถเก่าใช้มาประมาณ 10 ปีแล้ว ปัจจุบันไม่ค่อยได้ขับ จะใช้แต่เวลาไปหาหมอ ขอวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ช่วยติดตามรถให้ด้วย “คิดว่าสงสารผมเถอะ ผมแก่แล้ว ไม่มีรายได้ อยู่บ้านเฉยๆ กะว่าจะใช้รถคันนี้ไปจนตาย แต่กลับมาถูกคนร้ายขโมยไปเสียก่อน”

นางลัดดา เซี่ยงว่อง ภรรยาของนายชินเล่าว่า ได้ยินเสียงสตาร์ทรถและเสียงหมาเห่าจึงได้รีบไปดู ขณะนั้นคนร้ายอยู่ภายในรถแล้ว พอคนร้ายเห็นตนก็รีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว ตนวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน พอดีเห็นมีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้ามีผู้หญิงเป็นคนขับจอดอยู่ใกล้ๆ เลยไปขอความช่วยเหลือ บอกว่ารถถูกขโมยขอให้เขาขับตามคนร้ายก็เลยเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับ ภายในรถมีเด็กอายุประมาณ 9 ขวบนั่งอยู่ เขาบอกว่าลูกเขาเอง จึงขอให้ขับไปรับเด็กแถวบ้านเพื่อจะไปช่วยจับคนร้าย จึงไปด้วยกันทั้งหมด ขณะที่เขากำลังขับรถมีโทรศัพท์โทร.เข้ามา แต่เขาไม่บอกว่าอยู่กับใคร เสียงเขาสั่นๆ ดูเหมือนกลัว ขับรถส่ายไปมา พอมาถึงป้อมชวนชื่นก็ไล่เราลง อ้างว่าขับรถไม่แข็ง เราบอกว่ามันเดินไกลขอให้ไปส่งที่เดิม เขากลับมาส่งตรงทางแยก พอมาดูกล้องวงจรปิดรถคันที่ตนนั่งมาด้วยเป็นรถคันเดียวกันกับที่คนร้ายขับมาขโมยรถของเรา คิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ลูกกัน