ผู้นำชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามกับพวก รวม 11 คน เข้าพบพนักงานอัยการศาลแขวงดุสิต เพื่อส่งฟ้องศาล ตามความผิดในข้อหาร่วมกันฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนดห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากพื้นที่หรือสถานที่ที่กำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ซึ่งทั้งหมดถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ศาลแขวงดุสิต ถนนบรมราชชนนี น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ นำตัวผู้ชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม จำนวน 11 คน คือนายยี่ไทย หรือสรรพฤทธิ์ ปิตะวนิค หรือสันต์ ทัศน์ธาร กับพวก รวม 11 คน เข้าพบพนักงานอัยการศาลแขวงดุสิต เพื่อส่งฟ้องศาล ตามความผิดในข้อหา ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนดห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากพื้นที่หรือสถานที่ที่กำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ซึ่งทั้งหมดถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 ภายหลังผู้ต้องหากับพวกรวม 16 คน ร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะนั้นในเวลาประมาณ 08.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวพยายามเดินบุกเข้ามาตามถนนราชดำเนินนอก จากลานพระบรมรูปทรงม้า มาที่แยกมิสกวันซึ่งเป็นพื้นที่การประกาศห้ามใช้เส้นทางดังกล่าวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
โดย น.ส.พวงทิพย์กล่าวว่า วันนี้พนักงานอัยการเตรียมนำตัวผู้ต้องหาชุดแรกจำนวน 16 คน แต่วันนี้สามารถติดต่อได้ 11 คนส่งฟ้องศาลในความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามมีผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 137 คน โดยจะแบ่งฟ้องเป็นกลุ่มๆ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ เพราะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ภายใต้รัฐธรรมนูญ และการชุมนุมในวันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาในการสลายการชุมนุมด้วย
ต่อมาศาลแขวงดุสิต ประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2010/2558 ซึ่งศาลสอบคำให้การนายยี่ไทย และจำเลยทั้ง 11 คนแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลังยื่นฟ้องแล้ว น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทีมทนายความกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวว่า คดีนี้ เนื่องจากอัตราโทษไม่สูง จำคุกไม่เกิน 1 ปี ดังนั้นเมื่อศาลสอบคำให้การแล้ว จึงได้ปล่อยตัวจำเลยทั้งหมดไปในชั้นพิจารณาคดีนี้ โดยไม่ต้องมีหลักประกัน ขณะที่คดีการชุมนุมมีผู้ต้องหาทั้งหมด 127 ราย เมื่อยื่นฟ้องวันนี้ 11 ราย คงเหลือผู้ต้องหาที่อัยการ รอทยอยฟ้องอีก 116 ราย