xs
xsm
sm
md
lg

ไฟไหม้ร้าน “ถึงพริกถึงขิง” ย่านปทุมธานี เสียหาย 10 ล้าน กุ๊กมึน! ไฟติดหลังคาครัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
ASTVผู้จัดการ - ไฟไหม้ร้านอาหาร “ถึงพริกถึงขิง” ย่านปทุมธานี วอดไปกว่า 10 ล้าน ระดมรถน้ำดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าสกัดเพลิง กุ๊กในร้านเผยจู่ๆมีแสงเพลิงติดบริเวณหลังคาโรงครัว ตนพร้อมเพื่อนหนีตายอลหม่าน

วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.อนวัฒน์ แสนอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สวนพริกไทย รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ร้านอาหารถึงพริกถึงขิง ถนนรังสิต - ปทุมธานี ใกล้สะพานปทุมธานี 1 ตั้งอยู่เลขที่ 130 ม.5 ต.บ้านกลาง อ.เมือง ปทุมธานี รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับนายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นายอำเภอเมืองปทุมธานี พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.สวนพริกไทย พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เพื่อนำรถน้ำดับเพลิง และเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย ในท้องที่ และใกล้เคียงกว่า 20 คัน โดยสามารถใช้น้ำควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาในการดับเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบโชคดีไม่มีคนเจ็บและเสียชีวิต

 
ในที่เกิดเหตุเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ร้านอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทั้งร้านทำจากไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และมีพลาสติก รวมถึงถังแก๊สที่อยู่ภายในร้าน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้รถดับเพลิงประมาณ 20 คัน ในการควบคุมเพลิง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยเพลิงได้เผาผลาญร้านจนเสียหายทั้งหมด

จากการสอบสวน นายทองคูณ ชาวกล้า อายุ 47 ปี เป็นรองหัวหน้ากุ๊กร้านอาหารดังกล่าว บอกว่า ตนเองและหัวหน้ากุ๊ก อยู่ระหว่างจัดเตรียมเครื่องครัว ในการทำอาหาร จู่ ๆ ก็มีแสงเพลิงลุกขึ้น ที่บริเวณหลังคาโรงครัว จากนั้นไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนเองและหัวหน้ากุ๊ก จึงได้ช่วยกันขนถังแก๊สออกมาจากร้าน แต่ได้มาแค่ 5 ถัง จากนั้นไฟก็ลุกไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว แถมยังมีลมกระโชกแรงมาก ตนจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวนพริกไทย โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

 
ทางด้าน ร.ต.ท.อนวัฒน์ โดยเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จึงบันทึกที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายทองคูณ ที่เป็นรองหัวหน้ากุ๊กร้านอาหารดังกล่าว ไปสอบสวนเพิ่มเติม โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน (ศพฐ.1) เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ดังกล่าว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น