กองปราบตามรวบอดีต จนท. ทำเนียบ หนีคดีลวงน้องเมียวัย 17 ปี เข้าบังกะโลหมายข่มขืน แต่ยังให้การปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายหนีเรียน จึงพาเข้าบังกะโลหวังอบรมเหมือนลูกเหมือนหลาน
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายนิรันดร์ ม่วงผล อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ตรอกมงคล แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. เจ้าของร้านตัดผม สิริบาร์เบอร์ กทม. และอดีตลูกจ้างประจำทำเนียบรัฐบาล อยู่บ้านเลขที่ 566/115 ถนนสาธุประดิษฐ์ ซอย 44 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.54/2545 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2545 ข้อหาพรากผู้เยาว์ และพยายามข่มขืนกระทำชำเราได้ที่ร้านตัดผมดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 2 ตุลาคม 2545 ผู้ต้องหาได้ล่อลวง ด.ญ.เอ็ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี น้องสาวภรรยา พาตัวไปยังบังกะโลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ก่อนจะพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แต่ผู้เสียหายต่อสู้ขัดขืนก่อนจะหลบหนีมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นจังหวะที่มีเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.บ้านกร่ำ จ.ระยอง มาประสบเหตุ จึงช่วยเหลือไว้ได้ทัน ก่อนจะติดต่อผู้ปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ โดยภายหลังเกิดเหตุทางผู้ต้องหาได้ขอเออลีรีไทร์จากตำแหน่งลูกจ้างประจำที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนมาประกอบกิจการร้านตัดผมกับภรรยา
ต่อมาเมื่อถูกศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาได้พยายามติดต่อกับฝ่ายผู้เสียหาย เพื่อขอไกล่เกลี่ยและยอมความ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ กระทั่งชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. ได้วางแผนติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า น.ส.เอ็ม เป็นน้องสาวของภรรยาตน ที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดู ส่งเสียให้เรียนหนังสือ ซึ่งตนรักและเอ็นดูเหมือนลูกสาว ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันและอาศัยอยู่ที่บ้านพัก โดยให้การช่วยเหลืองานบ้านต่าง ๆ จนช่วงที่เกิดเหตุระหว่างที่ตนขับรถไปรับ น.ส.เอ็ม หลังจากพบว่าหนีเรียนมา จึงพยายามอบรมสั่งสอนและขับรถพาไปยังชายหาดแหลมแม่พิมพ์ และบังกะโลดังกล่าวซึ่งเป็นของเพื่อนที่รู้จักกัน ตนยืนยันว่า ไม่ได้ล่อลวง หรือคิดจะทำมิดีมิร้ายแค่เพียงต้องการเคลียร์ปัญหา แต่ระหว่างที่เข้าพัก น.ส.เอ็ม ได้หลบหนีมาแจ้งความจับตน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำอย่างนี้เพื่ออะไร แม้จะพยายามติดต่อมาเพื่อพูดคุยกัน แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยินยอมถอนแจ้งความ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกร่ำ จ.ระยอง รับไว้ดำเนินคดีต่อไป