“สมยศ” ชี้มีไอ้โม่งปล่อยข่าวดิสเครดิตแคนดิเดต ผบ.ตร. ซัดเป็นวิธีที่สกปรก ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำลายองค์กร ด้าน “จักรทิพย์” รับอาวุโสน้อย ความหวังขึ้นแท่น ผบ.ตร.คนใหม่เหลือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ หลังจากที่ตนเองจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน ว่า ยังไม่มีการเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการปล่อยข่าวโจมตีรอง ผบ.ตร.ที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ทุกครั้งก็เป็นอย่างนี้ ไม่เฉพาะในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ในหน่วยงานอื่นๆเมื่อมีการแต่งตั้งโยกย้ายก็จะมีเรื่องแบบนี้ปรากฏก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาว่าจะพิจารณาว่าสิ่งเหล่านั้นจริงเท็จอย่างไร
“ไม่อยากให้เกิดสิ่งเหล่านี้เพราะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง วิธีการสกปรก ไม่ใช่เรื่องที่ลูกผู้ชายทำกัน อยากบอกว่าทำอย่างนั้นไม่ดีเลย องค์กรเสื่อมเสีย องค์กรเสียหาย คนข้างนอกเขามองว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีความสามัคคี แก่งแย่งชิงดี ตัวผมเองก็เคยโดน แต่ทองแท้ไม่แพ้ไฟ ตอนนี้ที่เกิดขึ้นผมไม่ทราบว่าเป็นใคร” ผบ.ตร.กล่าว
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. หนึ่งในผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนได้ส่งวิสัยทัศน์การขึ้นเป็น ผบ.ตร.ต่อ พล.ต.อ.สมยศแล้วจำนวน 4 หน้ากระดาษตามที่ ผบ.ตร.กำหนด เนื้อหาเรื่องการให้ความเป็นธรรม การรักษาความปลอดภัย ปกติไม่มีอะไรมาก เมื่อถามถึงกรณีมีการปล่อยข่าวโจมตีผู้เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. รวมถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ด้วย รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่เห็นใครโจมตีใคร ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ
“ผมโดนมาตลอดอยู่แล้ว ไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจ เป็นไม่เป็น ไม่ได้เกี่ยว” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว และระบุถึงการหยิบยกประเด็นหลักอาวุโสมาใช้ในการพิจารณาว่า ผู้บังคับบัญชาทราบอยู่แล้วว่าจะให้ใคร มีรอง ผบ.ตร.ตั้ง 5 คน เมื่อถามว่ามีความพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า คิดกันไปเองหรือเปล่า ผู้สื่อข่าวก็เชียร์เกินไป ทุกคนก็มีความพร้อมเหมือนกัน ยังไม่มีใครมาทาบทาม หากให้เป็น ผบ.ตร.ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพร้อมหรือไม่ ต้องได้เป็นก่อน
เมื่อถามถึงกรณีมีไอ้โม่งปล่อยข่าวดิสเครดิต พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนทำงานอาชญากรรมมาเยอะ ฆ่ากันตายไม่รู้ตัวยังจับได้ แต่ไอ้โม่งเที่ยวนี้ไม่รู้ตัวเลยว่าใครเป็นใคร “ไม่รู้เลย มีแต่ข่าวลือ แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่ามี พี่น้องกัน พี่เอยน้องเอยกันทั้งนั้นครับ ทำไปก็เสียชื่อองค์กรเปล่าๆ ผมว่าวิธีแบบนี้มีทุกยุคทุกสมัย อยู่ที่ความเชื่อของผู้บังคับบัญชา เหมือนหนังสือร้องเรียนที่มีมาเรื่อย ถ้าไปให้ความสำคัญเรื่องแบบนี้ก็แล้ว แต่ผมไม่รู้” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นรอง ผบ.ตร.ที่อาวุโสน้อย คิดว่าเป็นอุปสรรคในการได้รับการพิจารณาหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็เป็นนะ แต่ตนก็มีสองมือสองเท้า ทำงานได้เหมือนกัน สมองเท่ากันหนึ่งสมอง ถามว่ายังมีความมั่นใจเต็มร้อยว่าจะไดรับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า วันนี้ตนเหลือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ไม่มีความมั่นใจ