ตำรวจตลิ่งชันฝากขัง ผกก.ฉกรถฮอนด้าซีวิค ใช้สเปรย์ฉีดหน้าพนักงานขายเต็นท์รถมือสองย่านถนนบรมราชชนนี ญาติผู้ต้องหายื่นเงินสด 1.5 แสนขอประกัน แต่ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาต เกรงจะหลบหนี
วันนี้ (27 ก.ค.) ร.ต.ท.ณัฐพงศ์ เพียรแย้ม พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ควบคุมตัว พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ อายุ 56 ปี ผกก.ฝ่ายบริการศึกษาศูนย์ฝึกอบรม (ศฝร.) บช.ภ.4 ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. - 7 ส.ค. 2558 เพราะต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ป้ายทะเบียน รถยนต์ ของกลาง และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา และอื่นๆ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 24 ก.ค. 2558 ได้มีคนร้ายแต่งตัวภูมิฐาน สวมแว่นตากันแดดสีชาเข้ม สวมวิกผม นั่งรถแท็กซี่มาที่บริษัท สยามคาร์การ์เด้น จำกัด ตั้งอยู่หัวมุมถนนบรมราชชนนี พร้อมกับสอบถามหารถยนต์มือสองยี่ห้อฮอนด้ารุ่นปี 2011 เป็นต้นไป โดยนายดนุพัฒน์ ขจีกานต์นนท์ พนักงานขายได้แนะนำรถฮอนด้าซีวิค ไฮบริด ราคา 649,000 บาท ของ น.ส.นราพร ตันตราชีวธร ผู้เสียหาย โดยรถคันดังกล่าวใช้ระบบเปิด-ปิดเครื่องยนต์ที่ปุ่ม ENGLINE START แทนการใช้กุญแจเสียบ โดยผู้ต้องหาได้ขอทดลองขับรถคันดังกล่าว ซึ่งพนักงานขายหยิบกุญแจรีโมตอัจฉริยะมาวางบริเวณคอนโซลใกล้กับเบรกมือ พร้อมสังเกตว่าผู้ต้องหามีพิรุธ โดยมีกระเป๋าถือซึ่งไม่ได้รูดซิป จึงระวังตัวตลอดเนื่องจากสงสัยว่าภายในกระเป๋าอาจจะมีอาวุธปืน หลังจากผู้ต้องหาขับรถวนในลานบริษัทได้หนึ่งรอบก็ใช้มือขวาหยิบกระเป๋าที่ไม่ได้รูดซิปที่วางอยู่ข้างตัวแล้วพูดว่า “ขอฉีดสเปรย์หน่อย “แล้วก็ฉีดใส่หน้านายดนุพัฒน์ แต่นายดนุพัฒน์ซึ่งระวังตัวอยู่แล้วยกมือขึ้นบังไปที่ช่องฉีดสเปรย์ แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมเลิกรา ยังใช้สเปรย์ฉีดใส่หน้านายดนุพัฒน์อีกจนต้องใช้มือปัดป้อง และหยิบรีโมตอัจฉริยะเปิดประตูกระโดดลงจากรถไป ส่วนคนร้ายก็ได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีไปยังถนนบรมราชชนนี จากนั้นนายดนุพัฒน์ได้แจ้งร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองตลอดจนผู้มีอาชีพทำกุญแจรีโมตอัจฉริยะว่า หากมีผู้ใดแจ้งทำรีโมตกุญแจอัจฉริยะรถยนต์รุ่นดังกล่าวก็ให้แจ้งแก่ผู้เสียหายทราบด้วย กระทั่งผู้เสียหายทราบว่ามีผู้ติดต่อทำกุญแจรีโมตอัจฉริยะรถยนต์รุ่นเดียวกับรถผู้เสียหาย โดยรถยนต์จอดที่ชั้น 3B โรงแรมเวียงใต้ ถ.ข้าวสาร จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ แต่มีการสวมป้ายทะเบียนด้านหน้าและด้านหลัง ฎพ 3299 กรุงเทพมหานคร แทนป้ายทะเบียนเดิม โดยมีผู้ต้องหาอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดและนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่ามีคนจำนำรถกับผู้ต้องหาและนัดให้มาพบที่ลานจอดรถดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 25 ก.ค. 2558 พนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหามาที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อให้พยานชี้ตัว พร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นประมวลความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคหนึ่ง และประกาศของคณะปฏิวัติฉบับวันที่ 11 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2514 ข้อ 14 เหตุเกิดที่แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวแล้วเกรงว่าจะหลบหนี
โดยในวันนี้ญาติของ พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 150,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนค้านการปล่อยชั่วคราว หากอนุญาตเชื่อว่าจะหลบหนีจึงให้ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัว พ.ต.อ.พันธุ์ศิริไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี
วันนี้ (27 ก.ค.) ร.ต.ท.ณัฐพงศ์ เพียรแย้ม พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ควบคุมตัว พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ อายุ 56 ปี ผกก.ฝ่ายบริการศึกษาศูนย์ฝึกอบรม (ศฝร.) บช.ภ.4 ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. - 7 ส.ค. 2558 เพราะต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ป้ายทะเบียน รถยนต์ ของกลาง และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา และอื่นๆ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 24 ก.ค. 2558 ได้มีคนร้ายแต่งตัวภูมิฐาน สวมแว่นตากันแดดสีชาเข้ม สวมวิกผม นั่งรถแท็กซี่มาที่บริษัท สยามคาร์การ์เด้น จำกัด ตั้งอยู่หัวมุมถนนบรมราชชนนี พร้อมกับสอบถามหารถยนต์มือสองยี่ห้อฮอนด้ารุ่นปี 2011 เป็นต้นไป โดยนายดนุพัฒน์ ขจีกานต์นนท์ พนักงานขายได้แนะนำรถฮอนด้าซีวิค ไฮบริด ราคา 649,000 บาท ของ น.ส.นราพร ตันตราชีวธร ผู้เสียหาย โดยรถคันดังกล่าวใช้ระบบเปิด-ปิดเครื่องยนต์ที่ปุ่ม ENGLINE START แทนการใช้กุญแจเสียบ โดยผู้ต้องหาได้ขอทดลองขับรถคันดังกล่าว ซึ่งพนักงานขายหยิบกุญแจรีโมตอัจฉริยะมาวางบริเวณคอนโซลใกล้กับเบรกมือ พร้อมสังเกตว่าผู้ต้องหามีพิรุธ โดยมีกระเป๋าถือซึ่งไม่ได้รูดซิป จึงระวังตัวตลอดเนื่องจากสงสัยว่าภายในกระเป๋าอาจจะมีอาวุธปืน หลังจากผู้ต้องหาขับรถวนในลานบริษัทได้หนึ่งรอบก็ใช้มือขวาหยิบกระเป๋าที่ไม่ได้รูดซิปที่วางอยู่ข้างตัวแล้วพูดว่า “ขอฉีดสเปรย์หน่อย “แล้วก็ฉีดใส่หน้านายดนุพัฒน์ แต่นายดนุพัฒน์ซึ่งระวังตัวอยู่แล้วยกมือขึ้นบังไปที่ช่องฉีดสเปรย์ แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมเลิกรา ยังใช้สเปรย์ฉีดใส่หน้านายดนุพัฒน์อีกจนต้องใช้มือปัดป้อง และหยิบรีโมตอัจฉริยะเปิดประตูกระโดดลงจากรถไป ส่วนคนร้ายก็ได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีไปยังถนนบรมราชชนนี จากนั้นนายดนุพัฒน์ได้แจ้งร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองตลอดจนผู้มีอาชีพทำกุญแจรีโมตอัจฉริยะว่า หากมีผู้ใดแจ้งทำรีโมตกุญแจอัจฉริยะรถยนต์รุ่นดังกล่าวก็ให้แจ้งแก่ผู้เสียหายทราบด้วย กระทั่งผู้เสียหายทราบว่ามีผู้ติดต่อทำกุญแจรีโมตอัจฉริยะรถยนต์รุ่นเดียวกับรถผู้เสียหาย โดยรถยนต์จอดที่ชั้น 3B โรงแรมเวียงใต้ ถ.ข้าวสาร จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ แต่มีการสวมป้ายทะเบียนด้านหน้าและด้านหลัง ฎพ 3299 กรุงเทพมหานคร แทนป้ายทะเบียนเดิม โดยมีผู้ต้องหาอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดและนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่ามีคนจำนำรถกับผู้ต้องหาและนัดให้มาพบที่ลานจอดรถดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 25 ก.ค. 2558 พนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหามาที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อให้พยานชี้ตัว พร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นประมวลความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคหนึ่ง และประกาศของคณะปฏิวัติฉบับวันที่ 11 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2514 ข้อ 14 เหตุเกิดที่แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวแล้วเกรงว่าจะหลบหนี
โดยในวันนี้ญาติของ พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 150,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนค้านการปล่อยชั่วคราว หากอนุญาตเชื่อว่าจะหลบหนีจึงให้ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัว พ.ต.อ.พันธุ์ศิริไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี