ASTV ผู้จัดการ - พริตตี้สาวคนสนิท “เสี่ยชูวงษ์” เครียด ตำรวจสอบร่วม 3 ชั่วโมง เผยเสี่ยโอนหุ้น 228 ล้านเพื่อให้ศึกษาวิธีการเล่นหุ้นเท่านั้น เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติของเอกสาร คาดคดีจะกระจ่างภายใน 2 สัปดาห์นี้ ระบุพริตตี้สาวยังไม่ถูกจัดสถานะแค่เป็นผู้มาให้ถ้อยคำ แต่ถือเป็นบุคคลวงในใกล้ชิดเสี่ยผู้ตาย
จากการที่ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้สาวคนสนิทนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุซึ่งญาติสงสัยจะมีเงื่อนงำ พร้อมด้วยนายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการ กก.1 บก.1 ป. หลังจากตำรวจออกหมายเรียก เนื่องจากพบว่านายชูวงษ์มีการโอนหุ้นให้ น.ส.กัญฐณาเป็นจำนวน 9.5 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 228 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้เปิดเผยหลังจากสอบปากคำ น.ส.กัญฐณา เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงว่า เบื้องต้นเป็นเพียงขั้นตอนการซักถามข้อมูลในประเด็นที่ น.ส.กัญฐณาได้รับการโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ มูลค่ากว่า 228 ล้านบาท โดย น.ส.กัญฐณายืนยันว่า ที่นายชูวงษ์โอนหุ้นให้เพราะว่าต้องการให้ศึกษาวิธีการเล่นหุ้นเพียงเท่านั้น และ น.ส.กัญฐณามีความรู้เรื่องหุ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนใครจะเป็นโบรกเกอร์นั้นขอให้เป็นข้อมูลในสำนวน โดยเอกสารการโอนหุ้นดังกล่าวจะมีการปลอมแปลงหรือเป็นเอกสารจริงนั้นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเอกสารดังกล่าวยังไม่ถึงกับเรียกว่าผิดปกติแต่อย่างใด
ส่วนการตรวจสอบในส่วนของการเสียชีวิตว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่รับผิดชอบของนครบาล อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าคดีจะมีความคืบหน้าและกระจ่างไม่เกิน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม น.ส.กัญฐณายังไม่ได้ระบุว่าอยู่ในสถานะใด เป็นเพียงผู้มาให้ถ้อยคำ และเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์และในคดีเท่านั้น ต้องให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำให้ครบทุกคน แต่ยอมรับว่าสิ่งที่เป็นกังวลคือการให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องเนื่องจากเกรงว่าจะมีการตกแต่งข้อมูลซึ่งถือเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาคัดกรองเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกัน ผู้ให้ข้อมูลบางรายอาจจะเปิดเผยข้อมูลไม่หมด จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องซักถามหลายครั้งเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า ขณะนี้ถือว่า น.ส.กัญฐณา และ น.ส.อุรชา เป็นบุคคลวงในและเป็นบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตมากที่สุด นอกจาก น.ส.กัญฐณาจะมาให้ถ้อยคำในวันนี้แล้ว วันที่ 24 กรกฎาคม น.ส.อุรชาก็ประสานจะเข้าให้ข้อมูลเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในห้องประชุมชั้น 1 บก.ป.ว่า ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราชซักถามข้อมูลจาก น.ส.กัญฐณานั้น พบว่า น.ส.กัญฐณามีท่าทางเคร่งเครียดตลอดเวลา โดยหลังจากสอบปากคำ น.ส.กัญฐณาเรียบร้อยแล้ว ทาง พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. และพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.ได้นำตัว น.ส.กัญฐณาขึ้นไปสอบปากคำต่อที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการ กองกำกับการ 1 โดยหลบผู้สื่อข่าวโดยการขึ้นไปบริเวณบันไดด้านข้าง
ด้าน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ว่า เรื่องประเด็นของการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ขณะนี้ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่าเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จากการตรวจสอบจนถึงตอนนี้ยังไม่พบว่าเป็นการฆาตกรรม
ส่วนเรื่องการตรวจสอบการโอนหุ้นเป็นหน้าที่ของทางกองปราบที่รับไปดำเนินการ ส่วนการสอบปากคำทั้งคนใกล้ชิด และ พยานแวดล้อมเราได้ทำการสอบไปหมดแล้ว โดยหลังจากนี้หากได้ข้อมูลมาครบถ้วนแล้วก็จะนำไปสรุปที่ ตร. อีกครั้ง เพราะว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้กำชับมาให้ไปรายงานที่ ตร. ส่วนเอกสารทางนิติวิทยาศาสตร์และ พฐ. เรายังได้ไม่ครบ เบื้องต้นได้รับรายงานมาแต่ยังไม่เป็นทางการ อย่างไรก็ตามในวันศุกร์(24 ก.ค.)จะมีการเรียกตรวจพยานหลักฐานจากพนักงานสอบสวนอีกครั้ง
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทั้งฝ่ายสอบและฝ่ายสืบอยู่ระหว่างลงพื้นที่ทั้งสอบสวนและหาหลักฐานเพิ่มเติม ครั้งแรกสั่งให้ไปสอบเพิ่มเติม 10 ประเด็น ครั้งที่สองตนสั่งให้สอบเพิ่มเติมอีก 12 ประเด็น รวมเป็น 22 ประเด็นที่สั่งให้ไปเก็บเพิ่ม เป็นประเด็นในเรื่องทางเทคนิเชี่ยนทั้งนั้น ซึ่ง 22 ประเด็นที่สั่งให้ไปสอบเพิ่มเป็นประเด็นที่ญาติผู้ตายยังติดใจอยู่ หากทำจนครบถ้วน จะทำให้เราสามารถตอบคำถามของญาติได้ชัดเจน ว่านายชูวงษ์เสียชีวิตยังไง เสียชีวิตเพราะเหตุใด สาเหตุไหนที่ติดใจอยู่ ก็ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการทำงาน เบื้องต้นได้รับรายงานทางวาจาบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องดูเอกสารที่ผู้ชำนาญการหรือผู้เชี่ยวชาญออกเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นทางการอีกครั้ง