ตร.รวบโจ๋เครือข่ายยาเสพติดย่านวัดตากล่ำ พบมีหมายจับในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น

ตำรวจ บก.น.4 รวบโจ๋เครือข่ายยาเสพติด “แบงก์ วัดตากล่ำ” จำหน่ายยาเคให้กลุ่มนักท่องเที่ยวสถานบันเทิงในเขต กทม.และปริมณฑล พร้อมยึดของกลางหลายรายการ พบยังมีหมายจับในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (17 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.น.4 รรท.ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.ต.พิรัชย์ สัจจา หัวหน้าชุดการข่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดการข่าว ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเฉลิมพล วิเชียรครุท หรือโอ อายุ 28 ปี นายมานพ พลับชิด หรือเค อายุ 23 ปี และนายศิวพล รวดเร็ว หรือเฟรน อายุ 20 ปี ผู้ค้ายายาเสพติดเครือข่ายแบงก์ วัดตากล่ำ พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด ไอซ์ 102.6 กรัม ยาเค (คีตามีน) 81 ขวด อาวุธปืน 2 กระบอก และซองกระสุนปืนเอเค 47 (อาก้า) 3 ซอง

พ.ต.ต.พิรัชย์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่านายเฉลิมพล ได้จำหน่ายยาเคให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวสถานบันเทิงในเขต กทม.และปริมณฑล ซึ่งในวันที่ 14 ก.ค.จะมีการนัดหมายซื้อขายกันที่บริเวณหน้าร้านสนุกเกอร์ ซ.เสรีไทย 41 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปเฝ้าดู ต่อมาพบนายเฉลิมพลเดินทางมาจึงได้แสดงตัวและขอตรวจค้นพบยาเค 50 ขวด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานพร้อมข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครอง ก่อนนำตัวนายเฉลิมพลไปฝากขัง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามสืบสวนขยายผล กระทั่งวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายมานพได้ พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด ไอซ์ 102.60 กรัม และซองกระสุนอาก้า 47 จำนวน 3 ซอง ได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 562 หมู่บ้าน มาร่วมคลอง ซ.อ่อนนุช 54 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จากแนวทางการสืบสวนทราบว่านายมานพเป็นกลุ่มเครือข่ายของนายขวัญ หรือแบงก์ รวดเร็ว เจ้าของฉายาแบงก์ วัดตากล่ำ มีพฤติกรรมขายยาเสพติดทุกประเภท และพกพาอาวุธปืน มักซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านมาร่วมคลอง นอกจากนี้นายมานพยังมีหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อนายมานพ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.ต.พิรัชย์กล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการจับกุมต่อไปอีก กระทั่งสามารถจับกุมนายศิวพล พร้อมของกลางยาเค 81 ขวด อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 68 นัด โดยสามารถจับกุมได้บริเวณบ้านเลขที่ 7 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซ.14 แยก 40 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ซึ่งนายศิวพลเป็นน้องชายของนายขวัญ มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดและพกพาอาวุธปืนเช่นเดียว และพักอาศัยมั่วสุมเสพและจำหน่ายยาเสพติดอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติผู้พบว่านายมานพ และนายศิวพล มีหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เนื่องจากเคยร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนแบบกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .38 ยิงผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2558 ในพื้นที่ สน.อุดมสุข ผู้ต้องหาทั้งสองยังอยู่ระหว่างหนีการจับกุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครอง และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อนายศิวพล ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป