ตำรวจรวบหนุ่มเมืองโอ่ง ประวัติก่อเหตุโชกโชน ฉกทองนายจ้างมูลค่า 15 ล้านบาท หลังหนีมากบดานอยู่ในซอยมหาดไทย สารภาพทำไปเพราะความโลภต้องการเอาเงินมาเล่นพนันออนไลน์ พบก่อนหน้านี้เคยฉกมือถือ 4 แสนบาท
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.4 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายปุณณวิทย์ หรือตั้ม ชะตารุ่ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม. 4 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ.116/2558 ลงวันที่ 19 มิ.ย. 2558 ในฐานความผิดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และหมายจับศาลแขวงจังหวัดนครปฐม ที่ 27/2558 ลงวันที่ 17 ก.พ. 2558 ในฐานความผิดยักยอกทรัพย์ พร้อมของกลางทองคำก้อน 99% กรอบพระทองคำและต่างหูทองคำ รวมมูลค่า 15 ล้านบาท รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน 3 กศ 1225 กทม. โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องพักภายในซอยมหาดไทย ย่านรามคำแหง กทม.
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า นายปุณณวิทย์นั้นเป็นพนักงานขายทองของร้านทองแห่งหนึ่ง โดยก่อนเกิดเหตุได้ทำการลักทรัพย์ทองคำรูปพรรณ และกรอบพระเลี่ยมทองที่ทางเจ้าของร้านได้มอบหมายให้ผู้ต้องหาพร้อมกับพนักงานขาย 3 คนนำไปขายให้ร้านทองตามจังหวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างที่แวะจอดรถโอนเงินค่าขายทองจำนวนหนึ่งให้กับทางเจ้าของร้านที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลกนั้น ผู้ต้องหาได้อาศัยจังหวะที่พนักงานขับรถเข้าห้องน้ำแอบนำกุญแจสำรองไปเปิดรถและขับรถยนต์ของกลางพร้อมถุงทองคำหลบหนีไป ก่อนจะนำรถยนต์ดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ที่ รพ.กรุงเทพ จ.พิษณุโลก แล้วโดยสารรถไฟหลบหนีกลับเข้ากรุงเทพฯ มาเช่าบ้านพักอยู่ภายในซอยมหาดไทย เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม
จากการสอบสวนนายปุณณวิทย์ให้การรับสารภาพว่าอาศัยความไว้วางใจจากเจ้าของร้านให้นำทองไปจำหน่ายต่อให้กับร้านทองตามต่างจังหวัด แต่ระหว่างที่นำทองไปขายเกิดความโลภอยากได้เงินเพื่อนำไปเล่นการพนันไพ่บาคาร่าออนไลน์ และพนันฟุตบอลออนไลน์จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุก็จะทยอยนำทองคำที่ขโมยมาได้ไปแปรสภาพหลอมเป็นทองคำก้อนบริสุทธิ์ที่โรงหลอมทองคำเถื่อนย่านบางขุนเทียน ที่ตนได้หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ก่อนจะนำไปขายต่อให้โรงรับจำนำย่านมีนบุรี สุขุมวิท ลาดพร้าว ได้เงินกว่า 3 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ เช่น จ.พิษณุโลก นครปฐม สตูล สมุทรสงคราม และกทม. โดยจะทำทีไปสมัครงานตามบริษัทต่างๆ ที่ได้ประกาศรับสมัครงานผ่านเว็บไซต์และจะเลือกเจาะจงเป็นพนักงานขายของบริษัท ห้างร้านต่างๆ ก่อนจะหาโอกาสทำการยักยอกเงินของนายจ้างแล้วหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ก่อนก่อเหตุลักทรัพย์ทองคำตนก็ได้ไปสมัครงานเป็นพนักงานขายของบริษัท ทรู ก่อนที่จะขโมยโทรศัพท์มือถือไปกว่า 4 แสนบาท จนถูกออกหมายจับตามศาลแขวงจังหวัดนครปฐมดังกล่าว
ด้าน น.ส.เอื้อการย์ ซาฮี อายุ 37 ปี เจ้าของร้านทองทรัพย์ทวีทอง ย่านเสาชิงช้า กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนก็ได้เดินทางเข้ามาร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามเพื่อให้ช่วยติดตามคนร้าย จนกระทั่งทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ตนก็ได้นำเรื่องราวไปโพสต์ในสื่อโซเซียล ก็มีหลากหลายกระแสบอกว่าจ่ายเงินไปเท่าไรถึงตามคนร้ายได้ ตำรวจถึงทำงาน ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีการจ่ายเงินแต่อย่างใด ทั้งนี้ ขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามคดีจนสามารถจับกุมคนร้ายพร้อมกับนำของกลางมาคืนได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และยักยอกทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป