ตำรวจพบประเด็นใหม่เงื่อนงำสังหารอดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ เป็นการว่าจ้างทำคดีหลายสิบล้านบาท มีบุคคลสำคัญเป็นผู้ต้องหา เตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นคนกลางที่ประสานระหว่างผู้ตายกับผู้ต้องหาเข้ามาสอบปากคำแล้ว
จากกรณีมือปืนจ่อยิงนายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ย่านพระราม 9 เสียชีวิต บริเวณหลังร้านเฮงหูฉลาม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง เมื่อค่ำวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นทีมสืบสวนตั้งประเด็นไว้หลายเรื่อง พร้อมทั้งมุ่งไปที่ประเด็นความขัดแย้งเรื่องหนี้สินการพนัน ปัญหาคดีความที่ผู้ตายรับเป็นทนายเคลียร์คดี ขณะที่พนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยจากภาพสเกตช์แล้ว 2 ราย รวมทั้งได้เส้นทางการหลบหนีของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่าเรื่องประเด็นความขัดแย้งทางคดีความที่ผู้ตายเคยรับว่าจ้างประมาณ 10 กว่าคดีนั้น ได้มีการตรวจสอบว่าแต่ละคดีมีผู้เกี่ยวข้องเป็นใครบ้าง และในส่วนของคนประสานงานระหว่างผู้ตายกับ “เสธ.ณุ” ให้ไปทวงหนี้จากคู่กรณีก็ได้มีทำการสอบปากคำไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความเกี่ยวข้องกันในหลายคดีซึ่งต้องทำการแจกแจงรายละเอียด พร้อมทั้งลำดับคดี เพื่อดูความน่าจะเป็น โดยทางฝ่ายสืบสวนให้ความสำคัญตั้งแต่คู่กรณีที่มีการโกงเงิน, การว่าจ้างทำคดีที่มีมูลค่าในการว่างจ้างจำนวนที่สูง บางครั้งไม่สามารถชนะคดีได้ รวมถึงคนใกล้ชิดในครอบครัว โดยได้มีการเรียกสอบปากคำไปเกือบครบแล้ว
พล.ต.ต.สมบัติกล่าวต่อว่า ในส่วนของคนร้ายขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ขยายวงในการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างต่อเนื่อง และได้เรียกพยานที่พบเห็นคนร้าย เข้ามาสอบปากคำแล้วจำนวน 2 ปาก ทั้งนี้ขนาดของกระสุนที่พบเป็นกระสุนขนาด .38 ซูเปอร์ ที่เป็นขนาดที่มีการใช้งานกันทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่พบประเด็นใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับว่าจ้างทำคดีที่ไม่ได้อยู่ในจำนวน 10 กว่าคดีที่มีการสอบไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีการว่าจ้างผู้ตายให้ทำคดีให้ผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ มีมูลค่าการว่าจ้างจำนวนหลายสิบล้านบาท โดยในวันนี้จะเรียกผู้เกี่ยวข้องเป็นซึ่งคนกลางที่ประสานงานว่าจ้างผู้ตายกับผู้ต้องหาเข้ามาสอบปากคำอีกจำนวน 2 ปากต่อไป