ตร.จัดประชุมคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา หลังสำนวนการสอบสวนถึงมืออัยการสูงสุด เผยผู้ต้องหาซึ่งถูกออกหมายจับมีทั้งสิ้น 119 ราย ส่งฟ้องไปแล้ว 72 ราย ดำเนินการอายัดทรัพย์ 117 ล้านบาท
วันนี้่ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวภายหลังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้นำสำนวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ อ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ส่งไปให้พนักงานอัยการศาลจังหวัดนาทวี เพื่อส่งต่อให้อัยการสูงสุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนตอนนี้ทางตำรวจได้ขอให้มีการสืบพยานล่วงหน้าในพยานปากสำคัญบางปากทั้งหมด 10 ราย เบื้องต้นได้ดำเนินการไปแล้ว 1 ปากซึ่งยังไม่เสร็จสิ้น ส่วนการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ได้ออกหมายจับไว้ 119 รายมีความคืบหน้าเพิ่มเติมได้อีก 17 ราย รวมขณะนี้มีตัวเลขผู้ต้องหาที่จะต้องสอบสวนและฟ้องไปในคราวเดียวกันทั้งหมด 72 ราย แต่ยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านี้ขึ้นกับการสอบสวนจับกุมต่อไป
“สำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 46 ราย ผมได้สั่งการไปที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าตำรวจภูธรภาค 9 ได้มอบหมายการดำเนินการเป็นส่วนๆ ถ้าเรื่องเกิดที่จังหวัดใดก็ให้ผู้บังคับการจังหวัดนั้นเป็นเจ้าภาพดูแลคดี โดยมีหน่วยสนับสนุนคอยช่วยเหลือ ส่วนผู้ต้องหาต่างชาติก็จะประสานให้ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ดำเนินการสืบสวนจับกุม นอกจากนี้ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ดำเนินการยึดทรัพย์สืบหาทรัพย์สินของผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินในคดีค้ามนุษย์คู่ขนานไปกับการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ โดยล่าสุดได้รับรายงานว่ามีการยึดอายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมจากเดิม 117 ล้านบาทเป็น 189 ล้านบาท” รอง ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการสืบสวนในประเด็นการฟอกเงินของผู้กระทำความผิด ทั้งที่ถูกจับได้และยังจับไม่ได้ โดยได้ให้พนักงานสืบสวนสอบสวนที่ทำคดีค้ามนุษย์ ขณะนี้คดีถึงขั้นตอนสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการไปแล้ว มาสืบสวนสอบสวนกรณีการฟอกเงินของกลุ่มผู้กระทำความผิดต่อไป เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาระดับผู้บงการเพิ่มเติมอีกหรือไม่ พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า จากพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจามีเพียงเท่านี้ ถือว่าคดีนี้ปิดได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามต้องรอคำสั่งจากอัยการสูงสุดต่อไป
