ศาลสั่งประหารมูเซอโหดรับจ้างยิง “ผกก.ไทรงาม” ดับหน้าบ้านพักที่ จ.นครสวรรค์ แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือติดคุกตลอดชีวิต
ที่ห้องพิจารณาคดี 812 ศาลอาญา วันนี้ (3 ก.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.3117/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสิมู จะหย่อ อายุ 52 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอ เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2554 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยร่วมกับพวกมีปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .357 แม็กนัม ไม่มีทะเบียน เครื่องกระสุนปืน .38 สเปเชียลหลายนัด ติดตัวไปที่หน้าบ้านเลขที่ 282/67-68 ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมืองนครสวรรค์ ก่อเหตุยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เสียชีวิตขณะกำลังล้างรถอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว มีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความของโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยที่เบิกความว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนขนาด .357 เป็นของจำเลย ซึ่งจำเลยสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายต่าย ให้ยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 1 แสนบาท เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ประกอบกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบกระสุนปืนในที่เกิดเหตุและที่พบในร่างของผู้เสียชีวิต เป็นกระสุนปืนชนิดเดียวกัน จึงเชื่อว่าที่จำเลยเบิกความประกอบคำรับสารภาพมานั้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีการปั้นแต่ง จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 วรรคสี่, 376 ประกอบมาตรา 83 และพ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้เรียกกระทงลงโทษ
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ลงโทษประหารชีวิต ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จำคุก 8 เดือน ฐานพกพาอาวุธปืน จำคุก 6 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ให้ 1 ใน 3 โดยฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ลดโทษเหลือจกคุกตลอดชีวิต ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ลดโทษเหลือจำคุก 6 เดือน และฐานพกพาอาวุธปืน ลดโทษเหลือจำคุก 4 เดือน แต่เมื่อรวมโทษแล้ว ให้ลงโทษตามบทหนักสุด จำคุกจำเลยตลอดชีวิต
