ชุดสืบสวนแถลงผลการจับกุมยาบ้า-ไอซ์ กวาดล้างจับกุมแก๊งค้ายา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด ในวันต่อต้านยาเสพติดโลก
วันนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.4 พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ มูลตา พ.ต.ต.พิรัชย์ สัจจา หัวหน้าชุดการข่าวฯ
พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวว่า คดีแรก แถลงผลการจับกุมนายสมชาย โถมใย หรือหนุ่ม อายุ 28 ปี และนายทวีชัย แสนทวีสุข หรือโอ อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 1 ห่อ หนักประมาณ 1,000 กรัม ยาบ้าจำนวน 10 มัด ประมาณ 20,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้บริเวณด่านเก็บเงินทับช้าง ฝั่งขาเข้า ช่องที่ 4 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. และบริเวณภายในซอยวัดบางด้วน ตำบลบางด้วน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีคนรู้จักกับนายทวีชัย ติดต่อสายลับให้นำรถยนต์พานายสมชายไปรับยาบ้าจำนวน 10 มัด หรือประมาณ 20,000 เม็ด และยาไอซ์หนัก 1 กิโลกรัม ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อนำมาให้นายสมชายบริเวณภายในซอยวัดบางด้วน ตำบลบางด้วน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เวลาประมาณ 22.00 น. ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุม จนกระทั่งนายทวีชัยเดินทางกลับจังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก เมื่อมาถึงด่านเก็บเงินทับช้างฝั่งขาเข้าช่องที่ 4 นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นพบยาบ้าและยาไอซ์บริเวณที่วางเท้าด้านหลังของนายทวีชัย จากนั้นนายทวีชัยได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมนายสมชายบริเวณที่นายสมชายนัดหมายรับมอบยาบ้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งสองพร้อมของกลางยาบ้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากการสอบสวนทวีชัยสารภาพว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายสมชาย ให้มารับยาบ้า ส่วนนายสมชายรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายนกแก้ว (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่อาศัยอยู่บริเวณแถบชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ
ส่วนในคดีที่ 2 แถลงผลการจับกุมขวัญชัย อิ่มสบาย หรืออ๋อง อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 5 ห่อ หนักประมาณ 500 กรัม ยาบ้าจำนวน 38 มัด หรือประมาณ 76,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และจักรยานยนต์ 1 คัน จับกุมได้บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และภายในห้องน้ำบ้านเลขที่ 11/1 หมู่ 11 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายบับว่าสามารถติดต่อล่อซื้อยาไอซ์หนัก 100 กรัม จาก น.ส.ดาว (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุประมาณ 30 ปี ในราคาขีดละ 100,000 บาท และนัดส่งมอบยาไอซ์บริเวณถนนสุวรรณภูมิ 3 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เวลาประมาณ 18.00 น. จากนั้นเมื่อถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่พบนายขวัญชัยมารอที่จุดนัดพบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 11 มัด หรือประมาณ 22,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเป้สีดำ จากการสอบสวนนายอ๋องรับสารภาพว่า ตนเตรียมยาบ้าไว้ไปส่งให้กับลูกค้าต่างๆ ตามที่ น.ส.ดาวสั่ง ซึ่งตนมียาบ้าอีกจำนวน 27 มัด และยาไอซ์จำนวน 4 ห่อ ห่อละ 100 กรัม ซุกซ่อนอยู่ที่บ้านญาติ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นและยึดของกลางภายในบ้านดังกล่าว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมและยึดของกลางยาบ้าและยาไอซ์ไว้ทั้งหมด
พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้เป็นของผู้ต้องขังที่อยู่ในคุก หรือที่เรียกกันว่าโอ้เอ้ แฟนหนุ่มของ น.ส.ดาว ที่ผ่านมา น.ส.ดาวเป็นคนติดต่อประสานงานให้กับนายโอเอ้ในการส่งยาบ้า จากนี้เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมตัว น.ส.ดาวและเครือข่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3 พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.น.4 พ.ต.อ.เมธา เจียมไกรศรี ผกก.สน.ประเวศ แถลงผลการจับกุม น.ส.โยษิกา ใจซื่อ หรือสุ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ซอย 01 กาญจนาภิเษก 35 แขวงและเขตประเวศ กทม. พร้อมของกลางยาบ้าชนิดเม็ดสีส้มลักษณะกลมแบน บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกลายการ์ตูน จำนวน 44 มัด มัดละประมาณ 2,000 เม็ด หรือประมาณ 88,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงรุ่นA5 สีขาว หมายเลข 098-858-4346 จำนวน 1 เครื่อง จับกุมได้ภายในห้องพักเลขที่ 608 ชั้น 6 นำวงษ์แมนชั่น กลางซอยศรีนครินทร์ 53 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 58 เวลาประมาณ 11.00 น. ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
พ.ต.อ.เมธากล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบจากสายลับว่ามีชายไทยชื่อเล่นว่าโอ อยู่ห้องพักเลขที่ 608 ชั้น 6 นำวงษ์แมนชั่น กลางซอยศรีนครินทร์ 53 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ได้นำยาเสพติดมาเก็บไว้ที่ห้องดังกล่าวและจะนำไปส่งต่อให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนเข้าจับกุม ต่อมาในวันที่ 25 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ได้เดินไปตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เมื่อประตูห้องเปิดพบ น.ส.โยษิกาแสดงตนเป็นเจ้าของห้อง เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าค้นห้องพัก ปรากฏว่าพบยาบ้าบรรจุภายในถุงพาสติกลายการ์ตูนจำนวน 44 มัด มัดละประมาณ 2,000 เม็ด รวมทั้งสิ้น 88,000 เม็ด ซุกซ่อนภายในตู้เสื้อผ้า จากการสอบสวน น.ส.โยษิกาสารภาพว่าได้เช่าห้องพักอยู่กินกับนายเอกฉัตร แจ่มใส หรือโอ ที่ผ่านมาตนรู้ว่านายเอกฉัตรมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และทราบว่านายเอกฉัตรเป็นคนนำยาบ้าดังกล่าวมาซุกซ่อนภายในห้อง ทางเจ้าหน้าที่จึงพยายามติดตามจับกุมตัวนายเอกเพื่อมาสอบสวน และดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4 พล.ต.ต.มานิตย์ จันทรคณา ผบก.น.7 พ.ต.อ.สมนึก น้อยคง พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผกก.สน.ตลิ่งชัน และพ.ต.ท.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ รอง ผกก.ป.สน.ตลิ่งชัน แถลงผลการจับกุมนายกิตติพล สีฟ้า หรือแจ๊บ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/24 หมู่2 ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง พร้อมของกลางยาบ้าชนิดเม็ดสีส้ม และสีเขียว สัญลักษณ์ XY ลักษณะกลมแบน จำนวน 20,000 เม็ด กระเป๋าสะพายสีเทา 1 ใบ กระเป๋าหูหิ้วสีน้ำเงินคาดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงสีชมพู 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อทรู สีดำ 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย สีดำ 1 เครื่อง จับกุมได้บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 58 เวลาประมาณ 18.30น. ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.คมสิทธิ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบขนส่งยาบ้า บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ โดยจะนัดส่งของบริเวณด้านข้างอาคารเคเอฟซี พลาซ่า ซึ่งผู้ต้องสงสัยเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี รูปร่างผอม ผิวดำแดง สูงประมาณ 175 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดสีเทา และสวมกางเกงยีนส์ขายาว สีนำเงิน เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุมในเวลาต่อมา และเมื่อทำการค้นตัวนายกิตติพล พบยาบ้าจำนวน 10 ห่อ แต่ละห่อถูกหุ้มด้วยกระดาษไขสีขาว กระดาษคาร์บอนสีน้ำเงิน และพันทับด้วยแผ่นพลาสติกใสซุกซ่อนภายในกระเป๋าหูหิ้ว และโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายกิตติพลพร้อมของกลางไว้เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายเอกชัย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจิง) ให้ไปรับยาบ้าจากนายบอย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) บริเวณจุดกลับรถ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนตัดใหม่ ระหว่างสามแยกไฟฉายมุ่งหน้ากาญจนาภิเษก แล้วนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ทั้งนี้ จากการตรรวจสอบพบว่ามียาบ้าบรรจุภายในห่อสีฟ้าจำนวน 10 ห่อ แต่ละห่อมียาบ้าสีส้มชนิดกลมแบนจำนวน 198 เม็ด และยาบ้าสีเขียวชนิดกลมแบนจำนวน 2 เม็ด แต่ละถุงบรรจุยาบ้าจำนวน 200 เม็ด
