ตำรวจกองปราบฯ แถลงรวบสาวใหญ่หลอกเป็นนายหน้าแรงงานเก็บองุ่นที่ออสเตรเลีย คิดค่าหัวรายละ 1-1.2 แสนบาท อ้างตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน ต่อมาที่ผู้เสียหาย 300 คน เข้าแจ้งความถูกนายหน้าอีกคนหลอกในลักษณะเดียวกัน เชื่อเป็นขบวนการเดียวกัน
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป.และ พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม น.ส.ฐานิดา สิทธิฤกษ์ อายุ 40 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ตามหมายจับคดีจัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และฉ้อโกงทรัพย์ ได้ที่ลุมพินีคอนโด ตึก D4 ห้อง 128/9 ชั้น 1 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายเรืองศักดิ์ ฝากไธสง และพวกกว่า 40 คน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.ฐานิดา, น.ส.นัทที โกมลวานิช และน.ส.พัชรีญา บุญทวีสวัสดิ์ หลังจากทั้งสามร่วมกันหลอกลวงให้ไปทำงานเก็บผลไม้ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยจะได้ค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการรายละ 100,000-120,000 บาท แต่เมื่อจ่ายเงินให้แล้วกลับไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่กล่าวอ้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามราย จนกระทั่งเย็นวานนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า น.ส.ฐานิดาหลบซ่อนตัวอยู่ในลุมพินีคอนโดดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว
สอบสวน น.ส.ฐานิดาอ้างว่าตนก็ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกันเนื่องจากได้รับการชักชวนจาก น.ส.นัททีซึ่งอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียว่าให้จัดหาคนทำงานให้ เมื่อตนได้เงินจากผู้เสียหายแล้วก็จะโอนไปยังบัญชีของ น.ส.พัชรีญาทันที แต่ทั้งนี้รายละเอียดอื่นๆ ขอให้การในชั้นศาล และยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ในส่วนคดีนี้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในขบวนการหลอกแรงงานไปเก็บองุ่น ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหา 2 รายที่หลบหนีการจับกุม โดย น.ส.นัททีมีหมายจับอยู่ 3 หมาย และคาดว่ายังคงกบดานอยู่ในประเทศไทย และ น.ส.พัชรีญาเบื้องต้นทราบว่ากบดานอยู่ที่ต่างประเทศ ทั้งนี้ได้ประสานข้อมูลและหมายจับเพื่อขึ้นแบล็กลิสต์ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ บก.ป.จะเร่งดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม อยากฝากประชาชนว่าก่อนไปทำงานที่ต่างประเทศควรตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงแรงงานให้ดีก่อน ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของขบวนการดังกล่าวได้
ต่อมาภายหลังการแถลงข่าว นายวิรัตน์ ศรีสัมพันธุ์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน ได้นำผู้เสียหายจำนวน 300 คนที่ถูกนายหน้าหลอกให้ไปเก็บองุ่นที่ออสเตรเลียเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อัคราเดช เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายณัฐชล ใจอ้าย นายหน้าหลอกแรงงานไปทำงานที่ออสเตรเลียเช่นกัน
นายธีรวัฒน์ ต๊ะพัด อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้เสียหายให้การว่า นายณัฐชลอ้างว่าตัวเองเป็นนายหน้าหาแรงงานไปทำงานที่ต่างประเทศ เช่น เก็บองุ่น และทำงานเป็นช่างอู่ต่อเรือ โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 1 แสนบาท แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการรายละ 30,000 บาท ตนหลงเชื่อจ่ายเงินไป 30,000 บาท จากนั้นนายณัฐชลนัดให้ตนมาอบรมก่อนเริ่มงานที่กระทรวงแรงงาน ทันทีที่มาถึงก็ขึ้นไปที่ห้องประชุมตามที่นัดหมาย แต่ปรากฏว่าไม่พบตัวนายหน้าคนดังกล่าว และเมื่อสอบถามไปยังกระทรวงแรงงานกลับพบว่าไม่มีการอบรมใดๆ จึงได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ก่อนตัดสินใจมาแจ้งความเพื่อให้ช่วยติดตามให้ เนื่องจากทราบว่าก่อนหน้านี้มีผู้ถูกหลอกในลักษณะคล้ายกัน เชื่อว่าเป็นขบวนการเดียวกัน