ผบ.ตร.เชื่อแล้ว “คิม” ยิงหลานชายตระกูลเปาอินทร์ หลังพยานหลักฐานสอดคล้องกับคำให้การ ระบุมีความเชื่อมโยงโทรศัพท์สั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต
วันนี้ (26 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายเขมทัต หรือคิม เลิศลักขนากุล อายุ 32 ปี เดินทางเข้ามอบตัวต่อตำรวจพร้อมสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิง นายทิวพันธุ์ เปาอินทร์ หลานชาย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เดิมทีเราไม่ปักใจเชื่อ การทำงานของตำรวจเราจะรีบด่วนสรุปปักใจเชื่อเลยว่าคนที่เข้ามอบตัวแล้วสารภาพทั้งหมดว่าเป็นผู้ต้องหาไม่ได้ ต้องมีการสืบสวนสอบสวน มีพยานหลักฐานมาสนับสนุนว่าได้กระทำความผิดจริง สำหรับกรณีนี้คดีมีความกระจ่างมากขึ้นว่านายเขมทัตที่มามอบตัวน่าจะเป็นคนที่ลงมือกระทำผิดเองโดยลำพัง เราพิจารณาจากข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ว่ามีการสั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหา นอกจากนี้พบความเชื่อมโยงระหว่างโทรศัพท์มือถือส่วนตัวกับอินเทอร์เน็ต
“ผมเป็นตำรวจมีประสบการณ์ การที่ผู้ต้องหาจู่ๆ มามอบตัว หรือถูกจับง่ายๆ แล้วสารภาพสิ้น เป็นสิ่งที่เราต้องสงสัยไว้ก่อน แต่ถ้ามีพยานหลักฐานมาสนับสนุนเราก็ต้องเชื่อฟังหลักฐาน จะใช้จินตนาการไม่ได้ หลักฐานเป็นอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น” ผบ.ตร.ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีนี้สามารถปิดได้เลยหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามพนักงานสอบสวน เมื่อถามว่าจากคำให้การผู้ต้องหามีบุคคลอื่นร่วมก่อเหตุอีก หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ต้องให้เวลาพนักงานสอบสวนรวบพยานหลักฐาน ขยายผลว่ามีใครมีส่วนร่วมอีกหรือไม่ ผู้ที่สามารถตอบคำถามตรงนี้ได้ดีที่สุดว่าคดีนี้มีบุคคลมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงถึงใครอีกหรือไม่ คือ พนักงานสอบสวน ต้องเชื่อใจและให้เกียรติพนักงานสอบสวน ทั้งนี้เชื่อว่า พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 เป็นคนตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด ทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐาน