ดีเอสไอบุกทลายโกดังเก็บเสื้อผ้าแบรนด์เนมปลอม กระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ (21 เม.ย. ) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ นางกรรณิกา ริมโพธิ์เงิน รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมแถลงผลการบุกจับทลายโกดังเก็บสินค้าประเภทเสื้อผ้าปลอมหลายยี่ห้อในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และการตรวจค้นสถานที่กระจายสินค้าและจำหน่ายสินค้ารายใหญ่ของภาคใต้ มูลค่าความเสียหายหากคิดเป็นราคาสินค้าจริงประมาณ 50 ล้านบาท
นางสุวณากล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ของสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ได้นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด โดยจุดแรก คือ ที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 120/84 ถนนราชปรารภ แขวงพญาไท เขตราชเทวีกรุงเทพมหานคร และอาคารพาณิชย์ เลขที่ 120/101 และเลขที่ 120/103 ถนนราชปรารภ แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร พบของกลางประเภทสินค้าประเภทเสื้อผ้าปลอมหลายยี่ห้อ เช่น BILLABONG (บิลลาบอง), QUICKSILVER (ควิกซิลเวอร์), POLO (โปโล), VANS (แวน), NIKE (ไนกี้), OAKLEY (โอคเลย์), AEMANI (อะมานี), HARLEY DAVISON (ฮาร์เลย์), CALVIN KLEIN (คาลวินไคลน์), ABERCROMBIE (อาเบอร์คอมบี้), PUMA (พูม่า), ELEMENT (เอลลิเมนท์), SUPERDRY (ซูเปอร์ไดร์), LACOSET (ลาคอส) ฯลฯ จำนวนประมาณ 13,832 ตัว มูลค่าความเสียหายคิดเป็นราคาสินค้าปลอมกว่า 5 ล้านบาท หากเป็นสินค้าของจริงจะมีมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาทและจับกุมเจ้าของกิจการ 1 ราย เพื่อดำเนินคดี
จุดที่ 2 ร้านค้าชื่อบานาน่า พลาซ่า (BANANA PLAZA) เลขที่ 27/5 บ.เขาหลัก หมู่ 7 ถ.เพชรเกษม ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบของกลางประเภทสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าหลายรายการ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา เสื้อ กางเกง เข็มขัด รองเท้า แว่นตา ลำโพง ฯลฯ จำนวน 13,295 ชิ้น
และจุดที่ 3 คือ ร้านค้าบริเวณ บ.เขาหลัก หมู่ 7 ถ.เพชรเกษม ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ภายในร้านมีสินค้าจำพวกเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า แว่นตา ลำโพง ฯลฯ ปลอมเครื่องหมายการค้าชนิดต่างๆ เช่น เครื่องหมายการค้า GUCCI (กุชชี่), LOUIS VUITTON (หลุยส์ วิตตอง), LONGCHAMP (ลอมชอมป์), CATH KIDSTON (แคท คิดสตัน), CHANEL (ชาเนล), BURBERRY (เบอร์เบอร์รี), HERMES (แอร์เมส), PRADA (พราด้า), LACOSTE (ลาคอส), MONT BLANC (มองบลังก์), CARTIER (คาร์เทียร์), NORHTFACE (นอร์ทเฟซ) และ COACH (โค้ช) วางเสนอขายอยู่เป็นจำนวนมากอย่างเปิดเผย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายคิดเป็นราคาสินค้าปลอมกว่า 5 ล้านบาท หากเป็นสินค้าของจริงจะมีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท จึงจับกุมตัวเจ้าของผู้ประกอบกิจการจำนวน 1 ราย โดยกล่าวหาว่าเสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
