ปคบ. ลงพื้นที่คลองถม ตรวจสอบผู้ประกอบการขายเครื่องเล่นฉีดน้ำ รณรงค์ไม่ให้ขายเครื่องฉีดน้ำกระบอกสูบแรงดันสูง หวั่นเกรงไม่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (9 เม.ย.) ที่ สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม รอง ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย นายอำพล วงศ์สิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เจ้าหน้าที่ สคบ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 และ กก.2 บก.ปคบ. ร่วมแถลงข่าวการรณรงค์เปิดโครงการ เล่นสงกรานต์ให้สนุก ต้องเลือกอุปกรณ์การเล่นน้ำให้ปลอดภัย โดยได้มีการยึดเครื่องเล่นฉีดน้ำแรงดันสูงที่ยึดมาได้จำนวน 48 กระบอก
นายอำพล กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ บก.ปคบ. ร่วมกันลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์บริเวณตลาดคลองถม ถ.วรจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย แขวงป้อมปราบ กทม. ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจขายเครื่องเล่นฉีดน้ำ เพื่อเป็นการป้องปรามผู้ประกอบการ หรือผู้ที่คิดจะขายเครื่องเล่นฉีดน้ำที่มีลักษณะเป็นกระบอกสูบและใช้แรงอัดกระแทกน้ำโดยตรง ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ทาง สคบ. ห้ามขายโดยเด็ดขาด จากการเล่นเครื่องฉีดน้ำดังกล่าวอาจส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากความแรงของน้ำเมื่อกระทบส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายจะทำให้รู้สึกเจ็บและหากกระทบดวงตาอาจเกิดอันตรายอย่างรุนแรง และหากมีการฉีดใส่ผู้ขับขี่ จยย. อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นพิการและเสียชีวิตได้ ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีคำสั่งที่ 1/2546 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2546 เรื่องห้ามขายสินค้าเครื่องเล่นฉีดน้ำที่มีลักษณะเป็นกระบอกสูบ และใช้แรงอัดกระแทกน้ำในกระบอกสูบโดยตรงเป็นการชั่วคราว
นายอำพล กล่าวต่อว่า เนื่องจากเห็นว่าเครื่องเล่นฉีดน้ำในลักษณะดังกล่าว ความแรงของน้ำเมื่อกระทบส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายจะทำให้รู้สึกเจ็บ และหากกระทบดวงตาอาจเกิดอันตรายอย่างรุนแรงได้ ต่อมาคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีคำสั่งที่ 4/2550 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2550 ห้ามขายสินค้าดังกล่าวเป็นการถาวร เนื่องจากได้ดำเนินการทดสอบและพิสูจน์โดยผู้ประกอบการธุรกิจและคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีปรากฎว่าสินค้านั้นอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เห็นว่าเป็นกรณีไม่อาจป้องกันอันตรายที่จะเกิดจากสินค้านั้นได้โดยการกำหนดฉลาก
พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ฝากเตือนไปยังประชาชนผู้บริโภคว่า ในปัจจุบันมีผู้ลักลอบขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย เนื่องจากสินค้าดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นผู้ผลิตหรือนำเข้าสินค้าห้ามขายดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ