ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผย “ศุภชัย” ไม่กังวลหรือเครียด แต่ตรวจพบเป็นเบาหวาน-ความดัน
วันนี้ (3 เม.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมตัวนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำนั้นนายศุภชัยไม่มีความกังวลหรือเครียด ก่อนเข้าเรือนจำเจ้าหน้าที่ได้ตรวจร่างกายตามขั้นตอนพบว่านายศุภชัยมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน และความดัน
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาจะถูกควบคุมตัวในแดนแรกรับ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนคัดแยกผู้ต้องขังต่อไป
วันเดียวกัน ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีพิเศษอาญา 3 ดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า จากการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นครั้งที่ 8/2558 โดยมีที่ปรึกษาคดีพิเศษ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์กูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน นายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ร่วมประชุม
ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าก่รดำเนิคดดีดังกล่าว โดยพ.ต.ต.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบ 2 สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูล หัวหน้าชุดติดตามเงินสหกรณ์ยูเนี่ยน ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจาก พ.ต.ต.ปกรณ์ ลงพื้นที่ต่างจังหวัดทั้งทีม สำหรับในที่ประชุมได้รายงานข้อเท็จจริงให้คณะที่ปรึกษาคดีพิเศษทราบ ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นคนอนุมัติสัญญาเงินกู้ จำนวน33 ฉบับโดย สั่งจ่ายให้กับ28 นิติบุคคล ในวงเงินประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาทในช่วงปี 53-55 ซึ่งเป็นยอดตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่นายศุภชัย สั่งจ่ายเช็ค 878 ฉบับ ให้กับ44 นิติบุคคล จำนวนเงินกว่า 13,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนชุดตรวจสอบทราบว่า พบว่าบางส่วนของสัญญาเงินกู้ในเช็ค33 ฉบับ เป็นลายมือชื่อปลอม เนื่องจากมีนิติบุคคลที่ถูกอ้างในสัญญาเงินกู้ 4-5นิติบุคคล เข้ามาให้ปากคำ และแสดงหลักฐานว่าไม่ได้เป็นผู้เซ็นรับเช็ค โดยบางส่วนไม่มีการกู้เงินจริง และ บางส่วนที่เช็คสั่งจ่ายไปยังนิติบุคคลก็มีชื่นายศุภชัยอยู่ในบริษัทนั้นๆด้วย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเชื่อว่า นายศุภชัยตั้งบริษัทขึ้นเป็นผู้รับเงินสั่งจ่ายเช็ค เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยเส้นทางการเงิน
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)และดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินของเทวสถานปฏิบัติธรรมองค์พระแม่มหาการี ปางประทานพรร่ำรวย ของนางประทุมพร บุตรศรี ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนายศุภชัย นอกจากนี้ยังพบว่านางประทุมพร ได้กู้เงินจากนายศุภชัยอีกด้วย ซึ่ง ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบอยู่ โดยในเวลา15.00 น.วันนี้ (3 เม.ย.) คณะทำงานคดีสหกรณ์ยูเนี่ยนจะเข้าประชุมพิจารณว่าจะรับกรณีที่นายศุภชัย ขายที่ดินจำนวน 8 แปลง ใกล้กับวัดพระธรรมกาย ให้กับน.ส.อลิสา อัศวโภคิน ลูกสาวเจ้าของบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้า จำนวน 298 ล้านบาท กับกรณีนายศุภชัยนำเงินและทรัพย์สินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โอนต่อไปให้ กลุ่มบริษัท เอส.ดับบลิว. โฮลดิ้ง ของนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล ว่าทั้ง 2 กรณีนี้จะรับเป็นคดีความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า การเรียกธัมมชโยเข้ามาสอบปากคำ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานงานอยู่ ยังไม่ได้ระบุวันที่นัดธัมมชโยเข้าให้ปากคำวันไหน สำหรับการทำงานของพนักงานสอบสวนนั้นไม่มีปัญหาอะไร เพียงกำลังตรวจสอบกรณีกรมส่งเสริมสหกรณ์มีมติอนุมัติเช็ค8 ฉบับ จำนวนเงิน 28 ล้านบาท ตามที่นายศุภชัยอ้างว่านำเงินไปแก้ปัญหาสภาพคล่องสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทั้งในเรื่องฝากขังนายศุภชัยนั้น ดีเอสไอมั่นใจว่าจะสรุปสำนวนคดีนายศุภชัยที่ 64/2557 ส่งฟ้องอัยการทันหลังสงกรานต์นี้แน่นอน
วันนี้ (3 เม.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมตัวนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำนั้นนายศุภชัยไม่มีความกังวลหรือเครียด ก่อนเข้าเรือนจำเจ้าหน้าที่ได้ตรวจร่างกายตามขั้นตอนพบว่านายศุภชัยมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน และความดัน
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาจะถูกควบคุมตัวในแดนแรกรับ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนคัดแยกผู้ต้องขังต่อไป
วันเดียวกัน ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีพิเศษอาญา 3 ดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า จากการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นครั้งที่ 8/2558 โดยมีที่ปรึกษาคดีพิเศษ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์กูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน นายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ร่วมประชุม
ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าก่รดำเนิคดดีดังกล่าว โดยพ.ต.ต.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบ 2 สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูล หัวหน้าชุดติดตามเงินสหกรณ์ยูเนี่ยน ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจาก พ.ต.ต.ปกรณ์ ลงพื้นที่ต่างจังหวัดทั้งทีม สำหรับในที่ประชุมได้รายงานข้อเท็จจริงให้คณะที่ปรึกษาคดีพิเศษทราบ ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นคนอนุมัติสัญญาเงินกู้ จำนวน33 ฉบับโดย สั่งจ่ายให้กับ28 นิติบุคคล ในวงเงินประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาทในช่วงปี 53-55 ซึ่งเป็นยอดตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่นายศุภชัย สั่งจ่ายเช็ค 878 ฉบับ ให้กับ44 นิติบุคคล จำนวนเงินกว่า 13,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนชุดตรวจสอบทราบว่า พบว่าบางส่วนของสัญญาเงินกู้ในเช็ค33 ฉบับ เป็นลายมือชื่อปลอม เนื่องจากมีนิติบุคคลที่ถูกอ้างในสัญญาเงินกู้ 4-5นิติบุคคล เข้ามาให้ปากคำ และแสดงหลักฐานว่าไม่ได้เป็นผู้เซ็นรับเช็ค โดยบางส่วนไม่มีการกู้เงินจริง และ บางส่วนที่เช็คสั่งจ่ายไปยังนิติบุคคลก็มีชื่นายศุภชัยอยู่ในบริษัทนั้นๆด้วย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเชื่อว่า นายศุภชัยตั้งบริษัทขึ้นเป็นผู้รับเงินสั่งจ่ายเช็ค เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยเส้นทางการเงิน
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)และดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินของเทวสถานปฏิบัติธรรมองค์พระแม่มหาการี ปางประทานพรร่ำรวย ของนางประทุมพร บุตรศรี ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนายศุภชัย นอกจากนี้ยังพบว่านางประทุมพร ได้กู้เงินจากนายศุภชัยอีกด้วย ซึ่ง ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบอยู่ โดยในเวลา15.00 น.วันนี้ (3 เม.ย.) คณะทำงานคดีสหกรณ์ยูเนี่ยนจะเข้าประชุมพิจารณว่าจะรับกรณีที่นายศุภชัย ขายที่ดินจำนวน 8 แปลง ใกล้กับวัดพระธรรมกาย ให้กับน.ส.อลิสา อัศวโภคิน ลูกสาวเจ้าของบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้า จำนวน 298 ล้านบาท กับกรณีนายศุภชัยนำเงินและทรัพย์สินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โอนต่อไปให้ กลุ่มบริษัท เอส.ดับบลิว. โฮลดิ้ง ของนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล ว่าทั้ง 2 กรณีนี้จะรับเป็นคดีความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า การเรียกธัมมชโยเข้ามาสอบปากคำ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานงานอยู่ ยังไม่ได้ระบุวันที่นัดธัมมชโยเข้าให้ปากคำวันไหน สำหรับการทำงานของพนักงานสอบสวนนั้นไม่มีปัญหาอะไร เพียงกำลังตรวจสอบกรณีกรมส่งเสริมสหกรณ์มีมติอนุมัติเช็ค8 ฉบับ จำนวนเงิน 28 ล้านบาท ตามที่นายศุภชัยอ้างว่านำเงินไปแก้ปัญหาสภาพคล่องสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทั้งในเรื่องฝากขังนายศุภชัยนั้น ดีเอสไอมั่นใจว่าจะสรุปสำนวนคดีนายศุภชัยที่ 64/2557 ส่งฟ้องอัยการทันหลังสงกรานต์นี้แน่นอน